top of page

ที่อยู่  888 Moo 3 ,Mai Khao,Thalang, Phuket 83110 THAILAND

 

เบอร์ติดต่อ +66 76 336 100

WEBSITE  www.phuket.anantara.com

FACEBOOK www.facebook.com/AnantaraMaiKhaoPhuket

IG       www.instagram.com/anantaramaikhao

ราคา มีตั้งแต่  14,500+ ไปจนถึง 45,500+ ขึ้นอยู่กับแบบห้องที่เลือกและโปรโมชั่นช่วงที่มา

ได้ยินชื่ออนันตรามานานมาก ได้โอกาสมาสัมผัสเป็นครั้งแรก ที่นี่ตกแต่งสไตล์ไทย 100% สวย มีเสน่ห์ ยากที่จะบรรยายเลยจริงๆ ขนาดเราเป็นคนไทยยังรู้สึกชอบมาก คิดว่าชาวต่างชาติที่มาพักต้องหลงไหลแน่นอน  บรรยากาศที่นี่ร่มรื่น ต้นไม้เยอะ มีสระบัวใหญ่ๆ มีเป็ดว่ายน้ำเล่น มีปลาเต็มบ่อ รู้สึกถึงความอุดมสมบูรณ์ หลังจาก Check in เรียบร้อย พนักงานก็พาขึ้นรถไปยังห้องพัก

 

ห้องที่เราพักคือวิลล่าที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว มีคลองอยู่ด้านหลัง เปิดประตูเข้าไปน้ำตาจะไหล สวยอะไรขนาดนี้ ประตูทางเข้าเหมือนเรือนไทยโบราณ เปิดเข้าไปจะเห็นสระน้ำ มีศาลาไม้เล็กๆให้นั่งเล่น  เข้าไปในห้องพักตะลึงกว่าเดิมกับเตียงที่น่านอน ต้องดูรูปประกอบ ถัดจากห้องนอนไปก็เป็นห้องแต่งตัว และห้องน้ำ ในส่วนของห้องน้ำ สามารถเปิดประตูออกไปเจอจากุ๊ชชี่และสระด้านนอกเป็นการออกแบบลงตัวมาก หลงรักที่นี่ภายในเวลาอันรวดเร็ว 

ดูจากรูปก็จะเห็นแล้วว่า ข้างในห้องนอนสวยมากจริงๆ มีกลิ่นอายความเป็นไทยร่วมสมัยอยู่ทุกจุด ห้องน้ำก็ดูเรียบง่าย ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา เปิดประตูห้องน้ำออกมาจะเจออ่างจากุซซี่ที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ ออกแบบมาได้ลงตัวมากๆ

ด้านนอกมีศาลาทรงไทยไว้นั่งเล่น มีตู้เย็น เครื่องดื่มต่างๆพร้อม ผลไม้และช๊อคโกแลตที่เตรียมไว้ให้อร่อยมาก มีมาการองของโปรดด้วย ยิ้มมม : )

ประตูไม้ที่อยู่ท้ายวิลล่า เปิดออกไปจะเจอคลองและศาลาไม้ริมน้ำ บรรยากาศแดดอ่อนๆตอนเย็น ความเขียวขจีและความร่มรื่นทำให้รู้สึกมีความสุข ตอนนี้คิดถึงพ่อกับแม่มาก รู้เลยว่าถ้าเค้าได้มาที่นี่จะต้องชอบมากแน่ๆ เรามาพักที่นี่แค่คืืนเดียวเวลาเลยมีไม่เยอะมาก ออกไปสำรวจข้างนอกมั่งดีกว่า

Outdoor Swimming Pool 

 

เดินไปชายหาดไม่ไกลจากวิลล่าเท่าไหร่ ก็จะเจอกับโซนสระว่ายน้ำ มีจากุซซี่ใหญ่ๆ มีมุมน่ารักๆให้นอนเล่นเต็มไปหมด ทำออกมาได้น่ารักมาก สังเกตุว่าโซนนี้จะตกแต่งไม่ค่อยไทยเท่าโซนอื่น จะออกแนว Relax ได้ฟิลทะเลๆ

นอนเล่นตรงนี้ถ่ายรูปกันจนเสร็จแล้วก็ถึงเวลาเดินออกไปทักทายกับทะเลซักหน่อย เห็นครั้งแรกพูดเลยว่า ตะลึง คลื่นที่นี่สูงมาก ทรายขาวมาก น้ำทะเลเขียวมาก ฮือ สวย~ อยากตะโกนดังๆว่า "ร๊ากกกกกทะเลจังเลย" ปกติเราจะแต่งสีรูปนิดหน่อย แต่รูปทะเลตรงนี้ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย ถ่ายยังไงก็อย่างงั้น เพราะโทนสีทุกๆอย่างสวยด้วยธรรมชาติของมันอยู่แล้ว

ยืนมองอยู่นาน ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไป มองดูคลื่นใหญ่ๆที่ซัดเข้าฝั่งเป็นระยะๆ ระหว่างทะเลกับภูเขา เราชอบอะไรมากกว่ากันนะ นึกถามตัวเองอยู่ในใจ กำลังจะตอบว่าทะเลแล้วเชียว แต่ความรู้สึกสุขสุดๆตอนไปเที่ยวภูเขาก็แว๊บเข้ามา เลยได้คำตอบแล้วว่า ไม่ได้ชอบที่ไหนมากกว่ากัน ชอบเท่าๆกันก็แล้วกันนะ : )  ตอนเที่ยวภูเขา ได้ความรู้สึก สงบ สดชื่น ผ่อนคลาย มีความสุข ส่วนทะเลก็สวยมีเสน่ห์ที่อธิบายไม่ถูก น้ำทะเลจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆตามแสงอาทิตย์ มองทะเลไปไกลๆสุดลูกหูลูกตาก็สบายใจดี เวลาที่คลื่นซัดเข้าหาฝั่ง มันเพลิน ดูได้ทั้งวันไม่เคยเบื่อเลย 

รอบนี้เรามีเวลาน้อยเลยอ้อยอิ่งมากไม่ได้ เดี๋ยวพาไปดูกันว่าบรรยากาศบริเวณรอบๆอนันตราเป็นยังไงมั่ง จากในรูปจะเห็นว่าเดินไปทางไหนก็จะเจอกับความเขียวขจี ต้นไม้ที่นี่เยอะทำให้บรรยากาศร่มรื่น เราเดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศไทยๆ ดอกไม้ที่นี่สวย หน้าตาแปลกๆเต็มไปหมด ดอกบัวดอกใหญ่มหึมาขนาดนี้ก็เพิ่งจะเคยเห็น 5555 ตอนนี้มีความสุขมาก ยังไม่พร้อมจะกลับกรุงเทพเลย - -"

ที่ประทับใจที่สุดก็คือการคุมคอนเซ็ปต์ของที่นี่ ทุกอย่างดูสวยงาม ลงตัว แม้กระทั่งรถเข็นของแม่บ้านยังเป็นไทยๆ กำลังชื่นชมรถเข็นอยู่ แม่บ้านก็ขี่จักรยานผ่านหน้าไป เรามองตามและยิ้มหน้าบานเลย โปรดสังเกตุชุดและหมวก 5555 น่าร๊ากก บรรยากาศทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังย้อนยุคกลับไปเมื่อร้อยปีที่แล้ว มีความสุขจัง

สถานที่สวยงามขนาดนี้ ลองมาดูอาหารกันบ้างค่ะ เริ่มจากอาหารเช้าก่อนเลย ที่ทานอาหารเช้าเป็นเรือนไทยริมน้ำ เปิดเข้าไปคิดว่าทุกคนต้องตะลึงไปแป๊ปนึง การตกแต่งเค้่าสวยมาก แต่ละโต๊ะจะมีม่านสูงๆล้อมรอบ มันน่ารักมากๆ มุมที่ให้ตักอาหารก็ละลานตาไปหมดเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว ที่นี่มีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง และอาหารญี่ปุ่น ผักผลไม้ โยเกิร์ต ทุกอย่างดูน่าทานไปหมด

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรามานั่งเล่นให้อาหารปลาริมน้ำด้านหน้าเรือนไทย ปลาที่นี่รู้งานมาก ตอนที่เรากำลังฉีกขนมปังเตรียมโปรย ปลาก็เรียงแถวรอแล้ว น่ารักจริงๆ นอกจากปลายังมีบรรดาเจ้าเป็ดน้อยที่รอขนมปังอยู่เหมือนกัน ระหว่างที่กำลังให้อาหารปลาและเป็ดเพลินๆ ก็มีสัตว์อีกชนิดที่โผล่มาทักทายกัน มันคือตัวเงินตัวทองนั่นเอง 5555555 มีความอุดมสมบูรณ์จริงๆ

เนื่องจากพื้นที่ในอนันตรากว้างใหญ่มาก เค้าก็จะมีจักรยานให้แขกที่มาเข้าพักได้ขี่เล่นชมบรรยากาศรอบๆ ฮ่า เรากับตาลไม่รอช้า หลังจากให้อาหารปลาเสร็จก็ชวนกันไปขี่จักรยานรอบๆ พูดเลยว่าตอนนั้นถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่สนุกและมีความสุขมาก เหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เราขี่ไปสำรวจดูทุกมุมทุกซอย โชคดีที่ต้นไม้ใหญ่ให้ความรื่นตลอดทางเลยไม่รู้สึกร้อน ได้แวะไปดูสระบัวสวยๆ ได้ขี่ลอดอุโมงค์ต้นไม้ด้วย พยายามซึมซับและจดจำความสุขตอนนี้ให้มากที่สุด เพื่อที่จะใช้เป็นพลังตอนกลับมาทำงานที่กรุงเทพ

ที่สุดท้ายที่จะแนะนำก็คือร้านอาหาร Sea.Fire.Salt ร้านนี้จะอยู่โซนด้านหลังใกล้ๆกับชาดหาด ตกแต่งด้วยโทนฟ้าขาวให้เข้ากับบรยากาศรอบๆ ในร้านประดับด้วยไฟห้อยลงจากจากเพดาน บรรยากาศตอนกลางคืนก็เลยดูโรแมนติคยังไงก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก 555 แต่ที่แน่ๆอาหารที่นี่ขึ้นชื่อมากจนต้องขอลอง

หลังจากเลือกอาหารในเมนูแล้ว แต่ละจานก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ อาหารในจานตกแต่งออกมาอย่างสวยงามและปราณีต ที่ประทับใจมากกว่าความสวยงามก็คือ รสชาติอาหารที่อร่อยกลมกล่อม คุณดิน Salt guru ของที่นี่ยังมาอธิบายถึงประโยชน์ของเกลือชนิดต่างๆ และSeafood Platter อาหารจานหลักของเราก็ยังเสิร์ฟมาบนเกลือหิมาลายันก้อนใหญ่ซึ่งมีแร่ธาติต่างๆมากมาย มื้อนี้ทั้งอิ่มอร่อยและได้ความรู้กลับบ้านเพียบ

ถึงแม้จะเป็นแค่เวลาช่วงสั้นๆ แต่ที่อนันตราก็ฝากความทรงจำดีๆกับเราไว้มากมายจริงๆ รู้สึกดีใจและภูมิใจแทนพนักงานและทีมงานที่ดูแลบริหารที่นี่ การใส่ใจในคุณภาพทุกๆรายละเอียด ทำให้แขกที่เข้าพักได้ความสุขและความประทับใจกลับบ้านไปเต็มๆแบบนี้ รับรองว่าใครที่ได้มาพักที่นี่แล้วต้องกลับมาอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน

bottom of page