top of page

Baannai The Reminiscence

เมื่อเพื่อนสาวชาวญี่ปุ่นจะพาสามีมาฮันนีมูนที่เมืองไทยแล้วให้เราช่วยหาที่พักให้ นางมีโจทย์ว่า

1. ไม่เอาโรงแรมแบบที่ Tourist ชอบไป ขอโรงแรมที่สงบๆ มีกลิ่นอายของความเป็นไทยแต่ไม่เชย

2. ขอให้มีมุมถ่ายรูปสวยๆ บรรยากาศร่มรื่น

3. อาหารที่โรงแรมต้องอร่อย

4. อยู่ใกล้ความเป็น Local ได้เห็นวิถีชีวิตคนไทยจริงๆ

5. เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว

 

อื้อหืออ แค่โจทย์มา 5 ข้อแรกก็เหงื่อตกแล้ว หนักใจเลยจะหาให้นางได้มั๊ย

แต่หลังจากหาข้อมูลซักพักก็เจอกับขุมทรัพย์เข้าให้ ไม่คิดเลยว่าโรงแรมแบบนี้จะมีอยู่จริง เป็นอะไรที่อยู่ใกล้ตัวแค่นิ๊ดดเดียว ประทับใจที่นี่มากจนอยากจะมาเล่าให้ฟัง ลองดูเป็นไอเดียเผื่อจะแนะนำเพื่อนต่างชาติมาพักนะคะ : )

โรงแรมที่ว่าก็คือ Baannai The Reminiscence นั่นเอง

โรงแรม Baannai The Reminiscence หลายๆคนอาจจะรู้จักที่นี่อยู่แล้ว เพราะที่นี่โด่งดังเรื่องอาหารไทยสไตล์ชาววังที่ได้สูตรตกทอดมาจากคุณยาย มีอาหารโบราณแปลกๆเช่น ยำดอกไม้ น้ำพริกอร่อยๆ และปลาแห้งแตงโม แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ว่าที่นี่มีที่พักด้วย ยอมรับเลยว่าเห็นห้องพักที่นี่แล้วใจเต้นตึกๆๆ เราไปเที่ยวมาหลายที่เจอที่สวยๆก็เยอะนะ แต่ที่นี่มันมีเสน่ห์บางอย่างที่อธิบายไม่ถูก การตกแต่งของที่นี่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคมาอยู่บ้านสไตล์ โคโลเนี่ยลในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มีความเป็นไทยผสมความเป็นฝรั่งได้อย่างพอดิบพอดี พี่เต๋า เจ้าของบ้านในก็น่ารัก มาต้อนรับดูแลตลอด พอสบโอกาสก็เลยถามถึงประวัติความเป็นมา จะเล่าให้ฟังคร่าวๆค่ะ บ้านในคือบ้านที่สร้างมาจากแรงบันดาลใจ ความรัก ความอบอุ่นที่ปู่ย่าตายายถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่าจากความทรงจำเมื่อครั้งท่านยังเป็นเด็ก โดยที่ห้องหลักๆตกแต่งตามคาแรคเตอร์ของผู้หญิงโสดสามพี่น้อง

• ห้องนอนที่นี่มีแค่ 4 ห้องเท่านั้น แต่ละห้องมีประวัติที่น่าสนใจ การตกแต่งก็สอดคล้องกับเรื่องราว ดีเทลในห้องจัดว่ามีเกือบทุกมุม และวัสดุที่ใช้คุณภาพดีมาก พูดเลยว่าเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว • ห้องเบญจมาศ • ห้องมะลิซ้อน • ห้องกุหลาบ • ห้องโบตั๋น • 

ห้องอาหาร

ห้องมะลิซ้อน

ห้องโบตั๋น

ห้องกุหลาบ

ห้องเบญจมาศ

1

• ห้องเบญจมาศ •

ห้องแรก คือ ห้องเบญจมาศ เป็นห้องของพี่สาวคนโต การตกแต่งจะออกโทนขรึมๆ นิ่งสงบ ไม่มีสีฉูดฉาด ใช้สี Earth tone ให้เข้ากับ Character ของพี่คนโตที่จะมีความเสียสละ รักสงบ ไม่วุ่นวาย ห้องนี้เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์หวายเพื่อเน้นการตกแต่งบ้านแบบยุคสมัยก่อน ผนังโทนสีส้มอิฐ ห้องนี้จะอยู่ด้านหน้าของตึก มีระเบียงเล็กๆในห้องที่สามารถมองเห็นสถานีรถไฟสามเสนด้วย 

2

• ห้องมะลิซ้อน •

ห้องนี้เป็นห้องของน้องสาวผู้รักงานฝีมือ ทั้งงานเย็บปักถักร้อย ทำอาหาร และรักในการปลูกต้นไม้ดอกไม้ ต้นไม้ส่วนใหญ่ในบ้าน เธอผู้นี้เป็นคนดูแลด้วยความเอาใจใส่ ห้องนอนห้องนี้จะเป็นห้องที่เน้นความสดใส มีชีวิตชีวา ของตกแต่งเป็นงานฝีมือ ห้องนี้จึงประดับด้วยวอลเปเปอร์ลายดอกไม้ทั้งห้อง ที่ผนังก็มีงานเย็บปักเก๋ๆประดับไว้ ชอบห้องนี้มาก เรานอนที่ห้องนี้คืนนึงก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะพาเพื่อนญี่ปุ่นไปเที่ยว หลับสบายจริงๆ มโนไปว่าอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ แทบไม่อยากจะตื่นเลย : )

เฟอร์นิเจอร์ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นการสั่งทำทั้งหมด ก็เลยจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจแอบซ่อนไว้ อย่างตู้ตัวนี้เปิดมาก็สามารถซ่อนบางพับไว้ด้านข้างได้ กลายเป็นตู้ทีวี

3

• ห้องกุหลาบ •

ห้องนี้เป็นของน้องสาวคนเล็ก ด้วยความที่เป็นน้องคนสุดท้องที่พี่ๆรัก ก็เลยยกห้องใหญ่ที่สุดในบ้านให้ น้องคนนี้จะเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวานและได้ชื่อว่าสวยที่สุด เป็นสาวสมัยใหม่ที่ชอบท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ห้องนี้จะเน้นการตกแต่งที่ค่อนข้างโปร่ง สีขาว ดอกกุหลาบขาว ดูมีรสนิยมที่งามสง่า มีเสน่ห์ สีขาวถูกเพิ่มเติมและเสริมด้วยลายลูกไม้จากม่านและของตกแต่ง
เป็นห้องที่ดู Minimal แต่มีเส่นห์ซ่อนอยู่ ที่เก๋คือห้องพักห้องนี้มีส่วนห้องมุขด้านหน้าที่จัดวางโต๊ะน้ำชาไว้

Mini Bar ที่นี่ทานได้ทุกอย่างไม่คิดเงินเพิ่ม เพราะรวมกับค่าห้องเรียบร้อยแล้ว แก้วก็จะมีผ้าถักสวมอยู่

โทรศัพท์และนาฬิกาหัวเตียงสามารถชาร์ตแบตมือถือและเปิดเพลงจากโทรศัพท์ได้ เจ๋งมากๆ

ทุกอย่างที่เตรียมให้แขกเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว

โถงด้านนอกของชั้นสอง มีของโบราณโชว์อยู่เต็มไปหมด ขนาดลูกบิดประตูก็ยังใช้ของ Baldwin ยี่ห้อเดียวกับที่โรงแรมโอเรียนเต็ลใช้

4

• ห้องโบตั๋น •

ห้องนี้เป็นห้องพักที่ตระเตรียมไว้ให้แขกผู้มาเยือนเป็นห้องที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน แยกส่วนออกไปไว้ด้านหน้า การตกแต่งห้องนี้มีการนำสไตล์จีน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ วัสดุตกแต่ง และรูปภาพที่ประดับตามผนังแต่มีความสมัยใหม่ที่เพิ่มเติมลงไปคือจะเป็นอ่างอาบน้ำ Jacuzzi ที่อยู่ด้านหลังของห้อง และที่โดนเด่นสะดุดตาสุดก็น่าจะเป็นห้องน้ำที่มีโทนสีน้ำเงินสดใส

5

• ห้องอาหาร •

อาหารน่าทานทุกเมนู พอทานเข้าไปก็ไม่ผิดหวัง ชอบน้ำพริกนี้ที่สุด อร่อยมากกกก ส่วนปลาแห้งแตงโม อาหารธรรมดาๆที่ใครได้ทานก็ต้องติดใจ หลังอาหารก็ปิดท้ายด้วยขนมไทยๆเสิร์ฟพร้อมกับชาร้อน

ที่นี่ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหน ก็จะเจอกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และของโบราณประดับอยู่มากมาย

Baannai The Reminiscence

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

Tel : 02-619-7430
https://www.facebook.com/Baannaithereminiscence/

bottom of page