Fukushima
ฟุกุชิมะ เมืองที่สายชิลจะต้องหลงรัก :D
เมืองเล็กๆในชนบทของฟุกุชิมะช่วงฤดูหนาวกับละอองหิมะที่ค่อยๆโปรยปรายลงมา มันคล้ายกับภาพในฝันที่เคยจินตนาการเอาไว้เมื่อตอนเป็นเด็กซะจริงๆ ถ้าถามว่าทำไมถึงชอบฟุกุชิมะ ตอบไม่ถูกเลยนะ อาจเป็นเพราะรายละเอียดเล็กๆน้อยๆหลายอย่างรวมกันทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ บ้านเมืองที่สงบเงียบ ความสวยงามของธรรมชาติ มิตรภาพของผู้คน และอาหารที่แสนจะอร่อย ลองมาที่นี่ซักครั้งแล้วจะรู้ว่าฟุกุชิมะมีเสน่ห์มากแค่ไหน #Welovefukushima : ) นี่เป็นการเดินทางครึ่งแรกที่อยู่ในแถบฟุกุชิมะ เรารวบรวมที่พัก ที่เที่ยว และอาหารร้านอร่อยๆไว้ให้แล้ว
ใครที่รู้สึกว่าเริ่มอยากรู้จักฟุกุชิมะให้มากขึ้น เข้าไปอ่านดูรายละเอียดได้ที่ www.welovefukushima.com เลยค่าา ❤
ก่อนจะไปอ่านรีวิวเต็มๆอยากแนะนำสาวๆไว้เลยนะคะ ถ้าจะไปเที่ยวที่หนาวจัดหรือที่ๆต้องเจอหิมะ พกครีมดีๆที่คิดว่าเอาอยู่ไปด้วย เพราะหน้าเราจะแห้งมากถ้าไม่เตรียมตัวดีๆหน้าอาจพังได้ สองตัวนี้หลังจากทดลองใช้แล้วดีงามมากๆ หน้าดีชุ่มชื่นตลอดทริป แนะนำเลยค่ะ
เคยรีวิวไว้ลองไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้เลยคนะคะ
"การเดินทาง"
ไปช่วงปลายเดือนธันวา – ต้นมกรา
ลงเครื่องที่นาริตะ นั่งJRไปสถานีโตเกียวใช้เวลา1ชม พอถึงโตเกียวก็เปลี่ยนขบวนเป็น Shinkansen Yamabiko นั่งไปลงสถานฟุกุชิมะได้เลยใช้เวลา 1.30ชม
ระหว่างที่อยู่ฟุกุชิมะ เช่ารถขับจากบริษัท Nippon Rent-A-Car เช่า7วัน ค่าเช่ารถรวมค่าประกันประมาณ 121,500 Yen ค่าบัตรทางด่วนแบบเหมา 15,750 Yen
Ryokan & Hotel
Higashiyama Onsen Mukaitaki (ฮิกาชิยาม่าออนเซน มูไคทากิเรียวกัง)
ที่นี่เป็นเรียวกังเก่าแก่ที่สวยและมีเสน่ห์ที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา บังเอิญผ่านไปเจอแล้วชอบมากเลยเดินเข้าไปถาม โชคดีที่ไม่ได้จองล่วงหน้าแล้วยังมีห้องว่าง เราเลยได้ใช้ชีวิต1คืนในเรียวกังเก่าแก่ที่มีอายุ 140 ปี เป็นอะไรที่ประทับใจและรู้สึกเหมือนความฝันเลย
แค่เห็นตัวตึกไม้โบราณด้านนอกที่มีน้ำตกและแม่น้ำไหลผ่านก็รู้สึกประทับใจแล้ว พอมาเจอมุมสวนด้านในที่มีเทียนจุดเป็นร้อยๆเล่มนี่ตะลึงไปเลย มันสวยแบบแทบจะอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ยิ่งมาตอนหน้าหนาวที่มีหิมะสีขาวปกคลุมไปทั่วแบบนี้ ทุกอย่างยิ่งชวนให้หลงใหล ซักครั้งในชีวิตพาตัวเองมาเจอกับอะไรแบบนี้คือรางวัลที่ดีที่สุดเลย
ราคาประมาณคืนละ 2 หมื่นบาท ราคานี้รวมอาการเช้าและอาหารเย็นแล้ว
มุมเด็ดคือตรงนี้เดินเข้ามาในเรียวกังก็จะเจอเลย นี่ตอนแสงเย็นๆที่ยังไม่มืดเท่าไหร่ ตอนที่เริ่มจะมืด ส ว ย ม า กกกกกกกก (ล้านตัว) เทียน 80 เล่มถูกบรรจงจุดให้แสงสว่างท่ามกลางคืนที่เหน็บหนาว 5555 ความกวีก็มา
สรุปมุมนี้ชนะเลิศในทริปนี้ มีความโรแมนติคเลเวลสูงสุด เพ้อไปหลายวันเลย
ห้องนอนกว้าง สวยงามตามราคา อีกอย่างทริปนี้พกขวดน้ำ Joseph Joseph.TH มาด้วย เจอหิมะปุ๊ปเอาไปวางไว้ เย็นเจี๊ยบชื่นใจมาก เหมือนดื่มน้ำจากตู้เย็นธรรมชาติ 555
Cuisine inn Tagoto
ที่พักที่นี่จะออกแนวอบอุ่นกันเอง บรรยากาศตอนหิมะตกที่นี่น่ารักเข้าบรรยากาศมาก มุมถ่ายรูปเยอะไปหมด อาหารเช้าก็จัดมาเป็นเซตซะน่ากิน อยู่ที่นี่ได้ฟิลลิ่งเหมือนอยู่บ้านญาติชาวญี่ปุ่น เจ้าของใจดีสุดๆ อ้อ ที่นี่ไม่มีห้องน้ำในห้องนะคะ จะอยู่นอกห้อง แต่ห้องน้ำสะอาดดีมาก ตอนกลางคืนเค้าจะเปิดให้แช่น้ำอุ่นในอ่าง ถ้าเราอยากลงไปแช่น้ำก็แช่ได้เลย ตื่นเช้าขึ้นมาตอนเดินไปแปรงฟันจะได้ยินเพลงญี่ปุ่นคลอเบาๆ พร้อมทั้งกลิ่นอาหารหอมฉุยรออยู่แล้ว แนะนำๆ พักที่นี่ดี มีความสุข
Sansuiso Tsuchiyu
ที่นี่เป็นเรียวกังที่กว้างใหญ่มาก ห้องนอนก็กว้างและดีที่มีบ่อออนเซนใหญ่ๆให้แช่ด้วย เราไปแช่ตอนห้าทุ่มไม่มีคนเลย ดี๊ดี จะได้ไม่ต้องอายใคร 555 แช่เสร็จตัวเบาหวิวหายเมื่อยเป็นปลิดทิ้ง อาหารเช้าที่นี่อร่อยหลายอย่าง มีให้เลือกเต็มไปหมด มีมุมนั่งกินข้าวเช้าน่ารักๆมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นสะพานแดง แต่ต้องเป็นวันที่หิมะตกนะถึงจะสวย วันที่เราไปไม่มีหิมะ วิวนอกหน้าต่างเลยเป็นสวนแห้งแล้ง ไม่ค่อยฟินเท่าไหร่ พอเช็คเอ้าท์ขับรถออกจากโรงแรมเท่านั้นอะ หิมะตกหนักเลย T T
Apa Hotel
ที่นี่เป็นโรงแรม ไม่ได้เป็นเรียวกัง ห้องนอนกับห้องน้ำเล็กจิ๋วนึง เอากระเป๋ากางใบนึงก็เต็มห้องแล้ว ชอบที่โรงแรมสะอาด ได้กลิ่นหอมตั้งแต่เดินเข้าโรงแรมเลย ข้างนอกอากาศ หนาวๆ พอเดินเข้าโรงแรมมาทั้งอุ่นทั้งหอม เลยประทับใจมาก น้ำในห้องน้ำก็แรงสะใจ ข้อดีที่สุดของที่นี่น่าจะเป็นเรื่องทำเลเพราะใกล้สถานีรถไฟมากใกล้ที่เช่ารถด้วย เดินทางไปไหน มาไหนสะดวกสุดๆ ราคาก็โอเคคืนละประมาณ2พันบาท
ลืมบอกไปว่าเวลามาเที่ยวหลายวัน และถ้ามีพวกเสื้อหนาวเยอะ แนะนำให้แพคใส่ถุงสูญญากาศนะคะ ประหยัดที่ในกระเป๋าได้เยอะมากจริงๆ เราซื้ออนไลน์ที่ ถุงสูญญากาศสำหรับจัดเก็บเสื้อผ้า Vacuum bag บริการดี ส่งถึงบ้านเร็วมาก ในรูปจีจี้บอกแม่จะไปเที่ยวอีกแล้วหรอออ ไม่ไปได้มั๊ย 55555
พอสูบลมออกเสื้อหนาๆมันก็จะแฟบแบบนี้เลย ดีมาก ควรมีติดบ้านไว้นะ
วิวระหว่างทาง ^^ เจอที่สวยอย่าขับต่อ ต้องจอดลงไปถ่ายรูป
Traveling
Yamakata / Dewa sanzen
ขับรถจากฟุกุชิมะไปที่นี่ใช้เวลา 2 ชมกว่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีอายุมากกว่า 1000 ปี ใน Dewa sanzan จะมี 3 จุดหลักๆก็คือ 3 ภูเขาที่คนนิยมไปกัน เค้าว่ากันว่าถ้าใครเห็นรูปปั้นครบ 33 แห่งในสถานที่นี้ สิ่งที่หวังจะเป็นจริง
เราไปMt makuro ที่เดียวเพราะหิมะหนามาก อีกสองที่ต้องเดินขึ้นไปอีกไกล ท่าจะไม่ไหวเพราะทางลื่นสุดๆ ที่นี่ก็จะเป็นอารมณ์ป่าๆมีต้นไม้สูงๆสองข้างทาง ดูลึกลับดี
Lake Inawashiro
ชอบทะเลสาบนี้ วิวสวยมองเห็นภูเขาอลังการอยู่ตรงหน้า ไฮไลท์ก็คือมีเป็ดเยอะแยะเต็มไปหมดเลย มันสนุกที่เห็นเป็ดอยู่ในที่หนาวๆได้ ในขณะที่เราตัวสั่นมือเท้าแข็งไปหมดแล้ว พวกมันดูชิลกันมาก กระโดดดุ๊กดิ๊กไปมา โอ๊ยไม่หนาวหรอไง นั่งบนหิมะอยู่ตรงนี้ซักพักจะเห็นพวกมันกระพือปีกบินพร้อมๆกันวนอยู่บนท้องฟ้า เป็นภาพที่สวยอลังการคุ้มค่าที่จะมานั่งหนาวตรงนี้มากๆ ห้ามพลาด อ้อ รู้สึกว่าเป็ดจะอยู่ตรงนี้ตลอดปี แต่พวกหงส์จะบินมาที่นี่ต้นเดือนพฤศจิกายนอยู่ไปถึงเดือนมีนาคมแล้วก็บินกลับไซบีเรีย
https://goo.gl/maps/1SNTGCYBBMM2
ที่นี้ห้ามน้องหมาเข้าน้า เดี๋ยวเป็ดตกใจ ด้วยความที่ชอบถ่ายรูปมันมากเกิน จนทำให้ลืมหนาวไปหมดเลย นั่งบนหิมะจนขาชา มือชา แต่มีความสุขโคดดด
ต้นสนข้างทาง
ขับรถเที่ยวเองเวลาเราเจอที่สวยๆตรงไหนก็แวะได้เลย ชอบแบบนี้มากกว่า อิสระดี ตรงนี้คือทางผ่านที่จะไป Lake Innawashiro มองจากในรถเห็นต้นสนสวยๆเรียงรายเป็นแถว แล้วหิมะที่เพิ่งตกใหม่ก็ขาวสวยเชียะ น่าลงไปวิ่งเล่น แต่พอเปิดประตูไปเท่านั้นแหละ โอ๊ยยย หนาวเป็นบ้า แล้วตรงที่มองว่าสวยๆนะหิมะสูงเกือบถึงเข่า 55555 ถามว่ากลับมั๊ย ไม่กลับ!! ช๊อบบบ วิ่งลุยไปเล่นหิมะสิคะ สนุก ได้รูปสวยๆมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก
https://goo.gl/maps/oqN89xWiPi42
หิมะตกหนักทั้งคืน เช้านี้ทุกอย่างรอบตัวก็เลยกลายเป็นสีขาวไปหมด ในวันที่อากาศหนาวแบบนี้ได้แสงแดดอบอุ่น นั่งจิบชา ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปเรื่อยๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
อยู่ไกลกันแค่ไหนก็รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ Pocket wifi ดีๆอย่าง Tripizee ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ สัญญานดีตลอดทริป ไม่ผิดหวังเลย แนะนำ : )
สะพานข้างทาง
ขับเลยต้นสนมานิดนึงจะเจอสะพาน เอ๊า ตรงนี้ก็สวยอีกแล้ว จอดอีก!! จะถึงจุดหมายเมื่อไหร่ดี จอดบ่อยเว่อร์ 555 แต่ก็นะเราไม่ได้มาบ่อยๆ ตรงไหนสวย อยากจะลงไปชื่นชมความสวยก็ลงไปเถอะ เที่ยวแบบไม่ต้องมีแพลนสนุกแบบนี้แหละ
https://goo.gl/maps/VN5JxKDBpNk
Kaneyama Train Station
จุดนี้อยู่แถวๆ สถานีรถไฟ Kaneyama เห็นโค้งต้นไม้มันสวยดี ก็เลยจอดไปเดินเล่นกัน ความเห็นส่วนตัวคือ ฟุกุชิมะมันมีเสน่ห์และมีอะไรที่น่าค้นหาตลอดทางเลยจริงๆ ตอนแดดมานะ เงาพวกกิ่งไม้จะทอดลงมาบนถนน ถ่ายรูปออกมาสวยมากๆๆๆ สวยกว่าตอนไม่มีแดดอีก แต่แดดมาแค่ 5 วิ ได้มารูปนึงก็ดีใจละ แต่เวลาถ่ายรูปบนถนนระวังรถด้วยเด้ออออ
เวลาเดินทางพกกรรไกรตัดเล็บเหมือนเราป่าวอะ? อยากรู้ 5555 ไปไหนขาดกรรไกรตัดเล็บไม่ได้ มันต้องมีติดไว้ ของ zwilling ใช้ดีนะ มีเป็นเซตสำหรับพกพา ชอบแพคเกจที่สุด เก๋มาก เป็นทรงกระเป๋าเดินทางจิ๋วๆ มีกรรไกรมีกระจกให้พร้อม ใครชอบไปตามหาซื้อได้ที่นี่ ZWILLING J.A. Henckels Thailand
มุมมหาชนถ่ายรถไฟ Tadami Line
มุมนี้นี่แบบ ถ้าใครมาฟุกุชิมะแล้วไม่แวะก็เหมือนมาไม่ถึง เราจอดรถตรง Ozekaido Mishima Juku Roadside Station แล้วเดินขึ้นเขาไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ที่สำคัญคือต้องเช็คเวลาที่รถไฟจะวิ่งผ่านมาให้ดี เพราะถ้าไปช้าก็ต้องรถอีกนานกว่าขบวนถัดไปจะวิ่งผ่าน เวลาที่รถไฟจะมาก็คือ 6:03/7:22 / 7:39 / 9:04 / 9:17 / 13:05 / 14:22 / 15:59 / 18:13
เผื่อๆเวลาเดินขึ้นเขาซักนิดนึงนะคะ จะได้ไม่พลาดตอนที่ไปยืนรอรถไฟ หนาวจนตัวสั่น มือแข็งไปหมด รอประมาณ 10 นาที แล้วโม้เม้นนั่นก็มาถึง เสียงรถไฟดังมาแต่ไกล มาแล้วๆๆๆ เรารีบตะโกนบอกเพื่อนทุกคนตื่นเต้นหนักมาก ปู๊นๆ แล้วรถไฟวิ่งผ่านไป 10 วินาทีได้ 55555 โอเคได้รูปรถไฟมา พอใจละ กลับได้ ง่ายๆแบบนี้เลย
สะพานสีฟ้า
สะพานนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากตรงที่เราถ่ายรถไฟเท่าไหร่ สีฟ้าอ่อนแบบนี้มันน่ารักมากๆจริงๆ ฉากด้านหลังเป็นภูเขาแล้วมีหิมะขาวๆโปรยปรายมา เป็นทัศนียภาพที่ไม่คุ้นตา แต่รู้สึกดีใจที่ตัวเองมาอยู่ตรงนี้ตอนนี้ มีความทรงจำดีๆกับที่นี่
วัดเอ็นโซจิ
ที่นี่เป็นวัดไม้โบราณที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 1300 ปี เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของฟุกุชิมะ ใครมาเที่ยวก็มักจะแวะมาไหว้ขอพรที่นี่กัน ด้านหน้าทางเข้าเป็นทางเดินยาวๆเข้าไป สองข้างทางเป็นต้นไม่เรียงรายกัน สวยดี ด้านหลังของวัดจะมองเห็นวิวหมู่บ้านและสะพานสีแดงด้วย วันที่เราไปหิมะตกหนักเลยมองไม่ค่อยจะเห็นอะไรในวัดมากนัก เพราะมีแต่หิมะหนาๆปกคลุมหมดเลย
คนที่นี่บอกว่าไปลูบๆวัวแล้วขอพร พรที่ขอจะเป็นจริง
Restaurants
Soba ข้างทาง วิวสวย
ร้านนี้เป็นร้านแรกที่กิน มันก็จะฟินๆนิดนึง การตกแต่งกับรรยากาศในร้านให้ฟิลลิ่งญี่ปุ่นโบราณ นั่งกินหมี่เย็นกับวิวภูเขาหิมะสวยๆแบบนี้ เพลินตาเพลินใจที่สุดอ่ะ ใครอยากวอร์มร่างกายให้อุ่นๆสั่งหมี่ร้อนก็ได้ อร่อยทั้งสองอย่างเลย แนะนำให้มาลองร้านนี้ ขอไปหาชื่อร้านก่อน เดี๋ยวมาแปะในคอมเม้นท์นะคะ
Sushi Train Hama Zushi
เป็นร้านซูชิสายพานที่ไม่แพง อร่อย และสนุกมาก เค้าจะมีหน้าจอให้เราจิ้มๆว่าจะสั่งอะไร พอเพลงดังนั่นแปลว่าให้เตรียมหยิบของที่เราสั่งกำลังมาแล้ววว
ร้านปลาไหลคุณป้า
จำได้ว่าคืนที่ไป เป็นคืนคริสต์มาส เมืองนี้ไม่ค่อยมีแสงสีอะไรเท่าไหร่เราก็เลยมาฉลองกันที่ร้านนี้ รสชาติอร่อยมากๆๆๆ คิดถูกที่มาจริงๆ
ข้าวหมูทอด Toll Road Rest stop (Ozekaido Mishima Juku Roadside Station)
ร้านนี้อยู่ตรงที่จอดรถตอนที่จะไปถ่ายรูปรถไฟที่ Tadami Line ข้าวหมูทอดอร่อยยยย ใช้ได้เลย ตอนแรกว่าจะสั่งจานเดียวเอามาแบ่งกันกิน อร่อยแบบนี้สั่งเพิ่มอีกจาน 5555
Yakiniku King Buffet
ถึงจะโปรดปรานอาหารญี่ปุ่นมาก แต่กินญี่ปุ่นทุกมื้อก็แอบเบื่อ ขับผ่านร้านนี้เห็นคนเยอะก็จอดเลยค่ะ โชคเข้าข้าง มันอร่อยมากกกกก อร่อยทุกอย่างยันผักฝอยเลย น้ำซุปอร่อย หมูก็อร่อย หอยนางรมก็สด กินกับเบียร์เย็นๆ โอ๊ย ชื่นใจชะมัด เสร็จมื้อนี้ กลับถึงห้องเสื้อผ้าเหม็นปิ้งย่างไปหมดเลย แต่ก็ยอม งุ้ยย นึกแล้วก็อยากกลับไปกินอีก
ข้าวเย็นที่เรียวกัง Cuisine inn
เรียวกังที่นี่เป็นร้านอาหารด้วยนะ เห็นคนที่เค้าไม่ได้พักมานั่งทานอาหารเย็นที่นี่กันหลายคน เราก็เลยขอลองดูซักมื้อ อาหารถูกบรรจงจัดมาในเซต หน้าตาแต่ละอย่างมาน่าทานมาก แล้วรสชาติก็อร่อย บางอย่างหน้าตาแปลกๆ เพิ่งจะเคยชิมเป็นครั้งแรก สนุกตรงที่ได้ลองอะไรที่ไม่เคยกิน ไฮไลท์ก็คือปลาที่เค้าเอามาย่างให้ดูสดๆ เนื้อหวาน อร่อย มื้อนี้เป็นอีกหนึ่งความประทับใจในทริปนี้เลย
ถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศอยากเที่ยวญี่ปุ่นเวอร์ชั่นห่างไกลแสงสีเสียง
ได้มีเวลาใกล้ชิดธรรมชาติมากหน่อย แนะนำที่ฟุกุชิมะเลย
ลองมาสัมผัสกับความน่ารักของที่นี่ดูแล้วจะรู้ว่าไม่เสียเที่ยวเลยค่ะ
ยังมีหลายที่ในญี่ปุ่นที่อยากไปเห็นด้วยตาตัวเอง
เดี๋ยวจะลองวางแผนดูว่ามีที่ไหนน่าสน แล้วจะกลับมาเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราให้ฟังใหม่นะคะ : )