top of page

5 Days with LUMIX GF8

ปกติเวลาไปเที่ยว ทริปที่ผ่านๆมาก็ใช้กล้องDSLR มาตลอด ทริปภูเก็ตเป็นทริปแรกที่ได้พกกล้องเล็กอย่าง Lumix GF8 ไปด้วย เพื่อนในกลุ่มปลื้มตัวนี้กันมาก เลยขอยืมมาลองใช้ดูเผื่อจะชอบ ก่อนไปก็วุ่นวายได้กล้องมายังไม่ทันได้ลองเล่นก็ต้องขึ้นเครื่องแล้วเลยเรียนรู้การใช้การระหว่างเดินทางนี่แหละ 5555

รูปนี้เป็นรูปแรกที่ถ่ายจาก Lumix GF8 ลองกดเล่นดูในร้านอาหารก่อนขึ้นเครื่อง ใช้ฟังก์ชั่น Creative Control โหมด Hi-key โทนสีจะออกมาเท่ๆเข้ากับรรยากาศเลย ชักสนุกกับกล้องเล็กแล้วสิ มีอะไรให้เล่นเยอะดี

ปกติถ้าใช้กล้องDSLRตัวใหญ่ จะมีความขี้เกียจสูงมาก เนื่องจากเก็บไว้ในกระเป๋ากล้องซึ่งวางไว้ใต้ที่นั่งบนเครื่องบิน กว่าจะหยิบออกมาก็ลำบากพอสมควร แต่เจ้าGF8 ตัวเล็กพกไว้ในกระเป๋าสะพาย เจอวิวสวยๆก็หยิบออกมาถ่ายได้ทันที อย่างตอนอยู่บนเครื่องบินโชคดีได้ที่นั่งริมหน้าต่างก็เลยได้รูปสวยๆมา กล้องเล็กดีอย่างนี้สินะ ถ่ายง่าย ไม่เมื่อยมือ พกพาสะดวก

หลังจากลงเครื่อง ได้กระเป๋าเรียบร้อยก็ไปที่ Thai Rent Car เพราะจองเช่ารถไว้ตั้งแต่ตอนซื้อตั๋ว ได้โปรถูกมากวันละ 700 เอง ในระหว่างที่ตาลรอคุยกับเจ้าหน้าที่ก็เลยลองกดอีกภาพดู เห้ย รูปโอเคมาก ไม่ได้ใช้โหมดอะไรเป็นพิเศษเลยด้วย ตั้งค่าแบบAuto ชอบโทนสี และความคมชัดของภาพมาก พอได้รถก็ตรวจสอบสภาพรถว่ามีรอยอะไรตรงไหนบ้าง หลังจากนั้นก็พร้อมออกเดินทาง

ไปถึงโรงแรม โดดเล่นน้ำกันก่อนเลย ผลัดกันถ่ายรูปสนุกดี เริ่มชินกับกล้องเล็กภายในเวลาอันรวดเร็ว ภาพคมชัด เบา ใช้งานง่ายมาก

พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ท้องฟ้าเริ่มมืด ก็ลองถ่ายดู ประทับใจมากกับตอนกลางคืนเวลาแสงน้อย ไม่ต้องปรับค่าอะไรให้วุ่นวายใช้โหมด Auto กดชัตเตอร์ออกมาก็ได้ภาพแบบนี้เลย ถ้าเป็นกล้องใหญ่ถ่ายออกมาเบลอแน่นอนถ้าไม่มีขาตั้งกล้อง

นอกจากจะลองถ่ายโน่นนี่เล่นแล้ว ที่พลาดไม่ได้ก็คือการ Sefie จุดเด่นของกล้องนี้คือมีโหมด Beauty Retouch สามารถลบริ้วรอย ปรับใบหน้าเรียว แต่งหน้าก็ได้ มีอะไรให้เล่นเยอะมากก แถมเลือกปรับSoft Skinได้ตั้ง 10 ระดับ ปกติกล้อง Mirror less ทั่วไปจะเลือกได้แค่ไม่กี่ระดับเอง อันนี้ถูกใจมากเหมาะกับผิวคนเอเชียแบบเรา ในรูปลองปรับSoft Skinระดับ3 จากหน้าโทรมๆอยู่หน้าใสขึ้นมาทันตาเห็น 555

มีอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่สนุกคือถ่ายด้วยการแตะบนหน้าจอทัชสกรีนเราสามารถตั้งค่าการกดชัตเตอร์เป็นแบบทัชชัตเตอร์ได้เลย ถ่ายง่ายดี แต่ถ้าถ่ายสองคนแนะนำให้ใช้โหมด Buddy Shutter พอกล้องโฟกัสได้ปุ๊ป แล้วเราเอาหัวชนกันเมื่อไหร่ กล้องก็จะถ่ายภาพให้โดยอัตโนมัติ เปิดโหมดนี้ทีไรได้หัวเราะกันทุกทีเพราะตาลเอาหัวโหม่งเราแรงมาก 555

ตอนที่อยู่บนเรือ นอกจากจะนั่งชิวๆมองดูความสวยงามของท้องทะเลแล้ว ที่เหลือก็ไม่พ้นเล่นถ่ายรูป ผลัดกันถ่าย Sefie กันสนุกไปเลย รูปตาลที่โทนสีออกวินเทจๆเป็นเพราะปรับโทนสีเป็น Retro ก็จะได้โทนย้อนยุคๆนิดนึง สวยไปอีกแบบ

ตอนที่เห็นทะเลภูเก็ตมีความสุขมาก ทุกอย่างสวยไปหมด น่าตื่นตาตื่นใจโดยเฉพาะคลื่น ใหญ่มากเวลาซัดเข้าฝั่งแต่ละทีจะมีฟองคลื่นขาวๆ ดูแล้วท่าท่างจะนุ่มเหมือนฟองเบียร์ กว่าจะได้รูปที่เห็นฟองขาวๆแบบนี้ก็แอบไม่ง่ายนะต้องกะจังหวะในการกดชัตเตอร์อยู่เหมือนกัน โทนสีที่ออกมาจากกล้องสวยอยู่แล้ว นวลๆเป็นแนวที่ชอบ แทบไม่ต้องปรับอะไรเพิ่มเติมเลย สะดวกมาก พอถ่ายเสร็จปุ๊ปลิ้งรูปเข้ามือถือแล้วก็โพสได้เลย 

หลังจากอยู่ด้วยกันหลายวัน ข้อดีอีกอย่างของกล้องนี้ที่เห็นได้ชัดมากๆเลยคือเวลาหน้าโทรม ไม่ต้องกลัวว่าถ่ายแล้วรูปจะออกมาไม่ดี เพราะกล้องนี้ฉลาดมาก มีให้ปรับโน่นปรับนี้จนดูดีเฉยเลย งง 5555 ยกตัวอย่างรูปล่างนะ นั่งตากแดดอยู่หน้ามันมาก เราลอง Sefie แล้วใช้โหมด Slim face ที่ระดับ 3 และที่พลาดไม่ได้ก็คือโหมด Softskin รูปที่ถ่ายออกมาหน้าเรียวขึ้นทันทีและผิวดี๊ดีย์ ความโทรมหายไปเลย รัก!! เข้าใจแล้วทำไมสาวๆถึงกรี๊ดกร๊าดกับ GF8 มาก 

ทริปนี้ก็เลยเป็นทริปที่เราสองคน Sefieกันเยอะที่สุด ได้รูปดีๆมาไม่น้อยเลยทีเดียว นอกเหนือจากที่เล่ามาแล้ว กล้องนี้ยังเปลี่ยนเลนส์และถ่ายวีดีโอได้ด้วยนะ หลังจากที่โหลด Panasonic image app มาแล้ว สามารถตัด Snap Movie จากโทรศัพท์แล้วโพสได้เลย ตอบโจทย์ Lifestyle ของคนสมัยใหม่ได้ดีเลยทีเดียว ตัวอย่างคลิปอยู่ด้านล่างนี้เลยค่ะ

แค่ช่วงเวลาสั้นๆที่ได้อยู่กับLumix GF8 เนี่ย ก็ทำให้เราประทับใจและรักเจ้ากล้องจิ๋วนี้ได้ง่ายๆเลยนะ เพราะความฉลาดและรู้ใจของระบบที่ทำมาเพื่อตอบสนอง Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชอบถ่ายรูปแบบเราด้วยแล้ว ตอบโจทย์ทุกอย่างแบบนี้ สงสัยต้องได้ซื้อมาเป็นของตัวเองแน่ๆ : )

bottom of page