top of page

Niyama Private Islands Maldives

a.jpg

เราเชื่อว่า มัลดีฟคือสถานที่ในฝันของใครๆหลายๆคน เป็นสถานที่ๆคิดว่าในชีวิตนี้ต้องไปให้ได้ซักครั้ง

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวันนี้มันจะมาถึงแล้ว จะได้ไปรู้จักและสัมผัสกับมัลดีฟจริงๆซักที ยิปปี้~~

 

ก่อนไปพูดเลยว่าทำการบ้านเยอะพอสมควร หาข้อมูลจนตาลาย

หลักๆก็คือเลือกว่าจะพักที่ไหน จะบินสายการบินอะไร ตอนไปถึงแล้วจะทำกิจกรรมอะไรบ้าง

ในเมื่อทริปนี้ไม่ใช่ทริปธรรมดา เป็นทริปที่รอคอยมานานมว๊าก ก็เลยขอให้รางวัลตัวเอง

เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเลยละกัน เอาให้ประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบ ชนิดที่ว่าแก่จนอายุ 70 ก็ยังไม่ลืม (เวอร์ไป๊) 55555

b.jpg
c.jpg

สายการบินที่เลือกคือ Bangkok Airway เพราะเป็นการบินตรงจากกรุงเทพไปยังมัลดีฟใช้เวลาทั้งหมด 4 ชม. ตั้งใจว่า 4 วัน 3 คืน จะใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่าที่สุด ไม่อยากเสียเวลาไปต่อเครื่องแม้แต่นิดเดียว ที่สำคัญ เครื่องใหญ่ นั่งสบาย และถ้าใครเป็นสมาชิค Flyer Bonus ชั้น Premier ก็จะสามารถเช็คอินแถวพิเศษ และใช้ Blue Ribbon Club Lounge ของชั้นธุรกิจเพื่อพักผ่อนก่อนขึ้นเครื่องได้ด้วย สะดวกสบายตรงนี้

 

ส่วนที่พัก เลือกนานมาก ตัดสินใจไม่ถูกในตอนแรก แต่สุดท้ายก็มาจบที่ Niyama Private Islands Maldives มีหลายเหตุผลที่เลือกที่นี่ แต่หลักๆก็คือ ที่พักสวย อาหารอร่อย มีร้านอาหารใต้น้ำ และมีกิจกรรมสนุกๆเยอะมาก ไปมัลดีฟทั้งทีเราไม่ได้อยากแค่นอนมองทะเล เราอยากออกไปลุย อยากไปสัมผัส อยากไปสนุกและทำความรู้จักกับที่นี่จริงๆ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปรู้จักมัลดีฟในมุมมองของ whenwewander กันฮ๊าฟ 

d.jpg

แรกพบ

ใกล้ชิด

ความสมดุล

เนื่องจากทริปนี้มันพิเศษสำหรับเรามาก ก็เลยจะขอทำรีวิวเป็น Diary สั้นๆ 3 ตอนนะคะ เวลาที่แฟนเพจอ่านจะได้รู้สึกเหมือนได้มาเที่ยวด้วยกัน รายละเอียดต่างๆของที่พัก และเรื่องน่ารู้ก่อนไปมัลดีฟจะมารีวิวอย่างละเอียดให้ฟังอีกทีค่ะ : )

1.jpg
4.jpg

ตอนที่ 1 แรกพบ

มารู้ตัวอีกทีก็กำลังนั่งเก้าอี้นวดหลังอยู่ที่เลานจ์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ รอเวลาขึ้นเครื่อง มองไปข้างๆเห็นตาลกำลังนอนยืดขาหลับอย่างสบายอารมณ์ เลานจ์ที่นี่สะดวกสบายดี มีอาหารและขนมอร่อยๆให้ทาน มีมุมคอมพิวเตอร์ให้ใช้ถ้าอยากจะนั่งทำงาน

Anchor 1
8.jpg
10.jpg

เผลอแป๊ปเดียวก็ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว ได้ที่นั่งริมหน้าต่างด้วย โชคดีจัง เวลาขึ้นเครื่องบิน ฉันชอบมองออกไปนอกหน้าต่าง มองวิว มองก้อนเมฆที่ค่อยๆลอยผ่านไป และก็พลอยนึกไปถึงตอนเด็กๆที่มีความคิดอยากจะวิ่งเล่นบนก้อนเมฆทุกที 

9.jpg
11.jpg

สักพักก็มีเครื่องดื่มและอาหารมาเสิร์ฟ เลือกไม่ถูกเลยระหว่างผัดไทกุ้งกับเป็ดย่าง เลยสั่งมาทั้งสองอย่างเลยละกัน แบ่งกันกินกับตาล เป็ดย่างรสชาติถูกใจมาก เนื้อนุ่มๆน้ำซอสอร่อย ไม่รู้เป็นเพราะเบาะนั่งสบายหรืออะไร เผลอหลับไปไม่รู้ตัวเลย สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินสัญญาณดังให้รัดเข็มขัด “เฮ้ย! ตาลๆ ตื่นเร็ว ใกล้จะถึงแล้ว” ฉันรีบปลุกตาลด้วยความตื่นเต้น มองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพด้านล่างเป็นเกาะน้อยใหญ่ สีน้ำทะเลสีฟ้าอ่อนไล่เฉดจากอ่อนมาเข้ม มันช่างสวยงามจริงๆ 

13.jpg
12.jpg
14.jpg

ลงจากเครื่องมาก็เจอพนักงานใส่ชุดสีขาวชูป้าย Niyama Maldives ยืนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามาอยู่มัลดีฟแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่เชื่อมั้ยตั้งแต่ลงเครื่องมายังไม่หุบยิ้มเลย อะไรมันจะมีความสุขขนาดนั้น….

เสียงใบพัดเครื่องบินเล็กดังกระหึ่ม ฉันกับตาลทำตามคำแนะนำของพี่สาวที่กำชับว่า ถ้าขึ้น Seaplane เมื่อไหร่ ให้เลือกนั่งเบาะแรกติดกับกัปตัน ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไม55555 ใน Seaplane นี้มันไม่มีแอร์ มีแค่พัดลมตัวจิ๋วที่ด้านหน้าตัวเดียว มันก็จะร้อนๆหน่อย หายใจไม่ค่อยออก เราต้องอยู่ในนี้ประมาณ 40 นาทีแน่ะ สิ่งที่ทำให้เผลอยิ้มออกมา คือมองไปเห็นกัปตันขับเครื่องบินด้วยเท้าเปล่า 55555 มันจะชิวอะไรเบอร์นี้ ชอบๆ สวัสดีนะมัลดีฟ : )

15.jpg
17.jpg
16.jpg
18.jpg

กว่าจะมาถึงที่พักก็ประมาณ 3 โมงแล้ว ห้องพักคืนแรกเป็นแบบ Beach Studio with Pool คือห้องจะมีสระส่วนตัวและอยู่ติดกับทะเลเลย ในห้องมีอุปกรณ์ทุกอย่างให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ มีไอติมแช่ไว้ให้กิน มีเครื่องทำป๊อปคอร์นด้วยนะ ที่ประทับใจสุดคือมี Welcome Drink เป็นแชมเปญขวดใหญ่ แช่น้ำแข็งไว้รอเลย เดินทางเหนื่อยๆมาเจอแบบนี้ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เราสองคนไม่รีรอ รีบเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ เทแชมเปญมาจิบ แล้วโดดลงไปดำผุดดำว่ายในสระ ต่อด้วยทะเลหลังบ้าน การที่ได้มาพักผ่อนแบบนี้มันดีต่อใจจริงๆนะ 

Pink Heart : IG Party_float

Swimsuit : Yo rata

23.jpg
24.jpg
25.jpg

ตกเย็นก็ออกไปเดินเล่นดูพระอาทิตย์ตกที่ Surf Shack พนักงานบอกว่าจุดนี้เป็นจุดที่คนเค้าชอบมาเล่นเซิร์ฟกัน และเป็นจุดเหมาะมาดูพระอาทิตย์ตกที่สุด เราสองคนยืนทอดอารมณ์ มองท้องฟ้าที่ค่อยๆเปลี่ยนสีจากชมพูเป็นส้ม และค่อยๆมืดลงในที่สุด 

26.jpg
27.jpg
28.jpg
29.jpg
30.jpg

“ดาว ตาลหิววว” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา ทำให้ฉันนึกได้ว่าถึงเวลาของมื้อเย็นแล้ว มื้อเย็นวันนี้เราเลือกทางอาหารบุฟเฟ่ที่ Epicure ที่นี่มีอาหารให้เลือกเยอะมาก มีซีฟู้ด มีเนื้อแกะของโปรด มีอาหารท้องถิ่นหลายอย่างให้ลองชิม อร่อยใช้ได้เลย ระหว่างที่ทานข้าว จู่ๆก็มี Surprise Show เป็นการร้องรำทำเพลงสไตล์มัลดิเวี่ยนด้วยท้วงทำนองสนุกสนาน เด็กๆที่นั่งแถวนั้นต่างพากันลุกมาเต้นกันอย่างมีความสุข 

32.jpg
31.jpg

ระหว่างที่กำลังกลับห้อง เราสองคนแหงนหน้าไปมองท้องฟ้าเห็นดาวเต็มฟ้าไปหมดเลย “มีความสุขจังเลยอะ อยากอยู่ที่นี่เนอะ” ฉันหันไปบอกตาล แต่ตาลคงจะเอือมแล้ว เพราะเวลาไปเที่ยวที่ไหน ฉันก็พูดแบบนี้ทุกที 555555 ระหว่างที่เดินคุยกัน ตาก็มองท้องฟ้าไปด้วย ความรู้สึกและลางสังหรณ์มันบอกว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ “ตาลๆ กางขาตั้งกล้องตรงนี้กัน ดาวแถวนี้มันเยอะมาก มีความรู้สึกว่าเราจะโชคดี” หลังจากที่กดชัตเตอร์ไปรูปแรก มองไปที่กล้องเราสองคนก็กรี๊ดลั่นขึ้นมาพร้อมกัน “ทางช้างเผือก!!” แรกพบก็ทำให้หลงรักซะแล้ว มัลดีฟ....

Anchor 2
33.jpg
34.jpg

ตอนที่ 2 ใกล้ชิด

เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความมืด “ตาล ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันเถอะ” “อืมมๆ “ ตาลส่งเสียงตอบแล้วก็เอาผ้าห่มคลุมโปงนอนต่อ ..... ตาลลลลล!

หกโมงเช้า เราสองคนก็มายืนอยู่กลางสะพานเรียบร้อยแล้ว รอเวลาที่จะชื่นชมแสงแรกของวัน ทะเลตอนเช้าทั้งสวยและสงบนิ่ง พวกเรานั่งมองและซึมซับความสวยงามของธรรมชาติกันอย่างเงียบๆ ช่วงเช้าก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น เป็นช่วงเวลาที่ชอบที่สุดแล้ว เวลาไปเที่ยวเลยยอมตื่นเช้าเพื่อรอคอยเวลานี้ และเชื่อมั๊ยธรรมชาติก็ชอบเซอร์ไพร์สเราในช่วงเวลาแบบนี้เช่นกัน “ดาวๆๆ ดูนั่นสิ ใช่ฉลามป่าววะ?” ตาลส่งเสียงดังลั่นท่ามกลางความเงียบ “โอ๊ย ตาล ตกใจหมด จะตะโกนทำไม ตาฝาดรึเปล่า ไหนฉลาม?” ฉันหันไปดูตามมือตาลที่กำลังชี้ไปตรงแถวๆริมหาด “ไม่เห็นจะมีเลย มีแต่ปู ฉันมองไป เห็นพวกปูทั้งตัวเล็กตัวใหญ่วิ่งไปมาอยู่บนผืนทราย “ปูที่นี่ตัวใหญ่กว่าปูบ้านเราเยอะเลยเนอะ เห็นแล้วคิดถึงส้มตำปูเลยอ่ะ” 5555 ตาลหัวเราะ นางคงคิดในใจว่าห่างบ้านมาแค่วันเดียว คิดถึงส้มตำซะแล้ว

37.jpg
35.jpg
36.jpg

ในขณะที่กำลังหัวเราะกันอยู่ ตาฉันก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างในทะเล “ตาล!! ฉ ฉ ฉลามจิงด้วย!! ถึงแม้มันจะเป็นครีบเล็กๆแต่ฉันจำได้ ตอนดูหนังฉลาม เวลาที่ฉลามออกมา มันจะมีครีบโผล่มาแบบนี้ ว่ายวนๆแบบนี้ด้วย งื้ออ ดีใจที่ได้เจอ แต่ก็กลัวๆยังไงก็ไม่รู้อะ ดีนะที่อยู่บนสะพาน ถ้าอยู่ในน้ำต้องกรี๊ดลั่นแน่เลย ท้องฟ้าเริ่มสว่าง พร้อมๆกับที่ท้องเริ่มหิว 

38.jpg
40.jpg
41.jpg
39.jpg

อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ผลไม้ก็น่ากินไปซะทุกอย่าง ฉันเลือกที่นั่ง Outdoor ริมสระน้ำ เพื่อที่จะได้ดูวิวริมทะเลไปด้วย พอกินอิ่มก็ออกไปเดินเล่นถ่ายรูปริมทะเลและกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนชุด เตรียมตัวไปดูปลาโลมา

 

Clothes : ISSUE Thailand

47.jpg
48.jpg
49.jpg
50.jpg
51.jpg
52.jpg
53.jpg

คุณอเล็กซ์ เป็นไกด์ที่อัธยาศัยดีและน่ารักมากจริงๆ เค้าเป็นคนฮ่องกงแต่มาทำงานที่นี่ คุณอเล็กซ์เล่าว่าจะต้องขับเรือออกทะเลไปซักพัก ถ้าโชคดีก็จะเจอกับฝูงปลาโลมาที่โผล่มาทักทายข้างๆเรือ และก็โชคดีจริงๆด้วย นี่นับเป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ได้เห็นปลาโลกลางท้องทะเลแบบใกล้ชิดขนาดนี้ นอกจากเจอปลาโลมาแล้วยังเจอฝูงปลาบินอีก พวกมันตลกมากเลย บินอยู่บนผิวน้ำอย่างกับตั๊กแตนแน่ะ

Hat : Bratpack Thailand 

54.jpg
55.jpg
56.jpg
58.jpg
57.jpg

หลังจากดูปลาโลมาเสร็จ กลับไปกินข้าวเที่ยงที่ NEST ที่นี่การตกแต่งใกล้ชิดธรรมชาติ ให้อารมณ์คล้ายกับรังนกที่อยู่ในป่า อาหารที่นี่เป็นเทปันยากิ มีพ่อครัวมาโชว์ลีลาทำอาหารให้ดู ทั้งเพลิน ทั้งอร่อย น้ำซุปนัวและอร่อยมาก ง่ำๆ พอกินอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาดำน้ำเราจะออกไปดำน้ำกลางทะเลมัลดีฟฟฟ “เมื่อกี้กินไปซะเยอะเลยอะ หวังว่าเค้าคงจะไม่ไปให้อาหารปลาที่กลางทะเลนะ” ตาลกล่าว - -“

59.jpg
61.jpg
60.jpg
63.jpg

ความฟินตอนแหวกว่ายดำน้ำในทะเลมัลดีฟนั้น ก็คงจะเป็นเพราะความใสแจ๋วของน้ำสีฟ้า เจอฝูงปลาแปลกๆมากมาย ได้เจอเต่า และเจอลูกปลาฉลามด้วย ตื่นเต้นจัง จะว่าไปฉันดีใจที่เจอแต่ตัวลูก โชคดีที่แม่ฉลามไม่ได้โผล่มาด้วย

Camera : KK Camera

67.jpg
68.jpg
70.jpg
72.jpg
73.jpg
74.jpg
75.jpg
76.jpg

กลับจากดำน้ำ ก็มีพนักงานมารอรับเพื่อพาขึ้นรถบัคกี้พาไปยัง Overwater Villa “สวัสดีค่ะ คนไทยใช่มั๊ยคะ” เสียงต้อนรับจากพนักงานทำให้เราสะดุ้งเล็กน้อย “ใช่ค่ะๆ เป็นคนไทยเหมือนกันหรอคะ ทำไมถึงมาทำงานที่นี่อะคะ บลาๆๆ .....” คราวนี้ก็คุยกันยาวเลย ดีใจเจอพนักงานคนไทยด้วย ได้พูดภาษาไทยกับคนไทยตอนอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมันก็จะยิ้มๆหน่อย ไม่ทันไรรถก็พาเรามาถึงหน้าห้องพักแล้ว ตื่นเต้นจัง สองคืนที่เหลือเราจะนอนที่ห้องนี้ มันจะสวยเหมือนที่คิดไว้มั๊ย พอเปิดประตูห้องเข้าไป ภาพที่เห็นตรงหน้าคือห้องกว้่างๆ กับวิวทะเลสุดลูกหูลูกตาอยู่ตรงหน้า ฉันยืนช๊อคกับความสวยอยู่พักนึง แล้วก็ได้สติ มองไปรอบๆห้อง ห้องนี้มีมุมโซฟาขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง มีกล้องส่องดูดาว มีมุมโต๊ะอาหารเล็กๆ มีกีต้าร์ไฟฟ้าวางไว้ด้วย แต่ที่ว๊าวที่สุดคือสระว่ายน้ำด้านนอกที่มองออกไปเห็นทะเลนี่แหละ แล้วมันก็มีบันไดไม้จากห้องเราให้ปีนลงไปแหวกว่ายในทะเลได้ด้วย ตอนนี้ฉันนึกขอบคุณและบอกตัวเองอยู่ในใจ “ดาว....ตั้งใจและขยันทำงานให้มากๆนะ จะได้มาเที่ยวที่สวยๆแบบนี้อีก : )” 

69.jpg
71.jpg
77.jpg
78.jpg

ฉันกับตาลหยิบขนมที่เตรียมมาจากไทย แกะกินและนอนมองวิวตรงสระน้ำอย่างสบายอารมณ์ กินเสร็จก็ลงไปว่ายน้ำในสระ แล้วก็โดดลงไปว่ายในทะเลวนอยู่แบบนี้จนถึงเวลาอาหารเย็น

Pink Heart : IG Party_float
Swimsuit : Aprilpoolday

79.jpg
81.jpg
80.jpg
82.jpg

มื้อเย็นวันนี้เราจะไปกินข้าวที่ EDGE ตรงนี้จะเป็นห้องอาหารที่อยู่กลางน้ำ ต้องนั่งเรือเล็กออกไปอีก 10 นาที ทีเด็ดอยู่ที่ด้านล่างจะมีร้านใต้น้ำที่ชื่อ SUBSIX สามารถลงไปนั่งสั่งอาหาร สั่งเครื่องดื่ม แล้วมองโลกใต้น้ำ เห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยแหวกว่ายไปมาได้ อาหารทะเลที่นี่สดและอร่อยมาก หลังจากกินจนอิ่มก็ได้เวลากลับห้อง เรือเล็กจอดรอผู้โดยสารเพื่อจะพากลับไปยังที่พักอยู่แล้ว “ตาล ลองนั่งแบบนี้แล้วแหงนหน้ามองดูท้องฟ้าสิ” ฉันบอกตาลพร้อมทั้งทำท่าให้ดู แล้วเราสองคนก็นั่งเอาหัวพิงขอบเรือมองดูฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ลมทะเลเอื่อยๆพัดมาโดนหน้า ณ.วินาทีที่นั้นฉันรู้สึกสุขสงบอย่างประหลาด

88.jpg
89.jpg
92.jpg
90.jpg
91.jpg

กลับมาถึงห้องแล้วก็ยังคงติดใจกับความสวยงามอลังการของดวงดาวยามค่ำคืน ฉันก็เลยชวนตาลออกมาถ่ายดาวหน้าห้องพักกันอีกรอบ เอ๋า สวัสดี เจอกันอีกแล้วนะทางช้างเผือก... บางครั้งฉันก็แอบยิ้มให้กับความโชคดีของตัวเอง ไปที่ไหนก็มักจะเจอดวงดาวสวยๆ หรือไม่ก็ทางช้างเผือกแบบไม่ได้ตั้งใจทุกที เอ หรือเป็นเพราะชื่อดาวเหมือนกัน มันเลยมีแรงดึงดูดบางอย่าง ให้ใกล้ชิดกันก็ยังคงสงสัยอยู่ : )

Anchor 3
93.jpg
95.jpg
96.jpg
94.jpg
97.jpg

ตอนที่ 3 ความสมดุล

เสียงนาฬิกาปลุกดังตอนตีห้าครึ่งเหมือนเคย ฉันรีบล้างหน้าแปรงฟัน เพื่อที่จะออกมารอดูแสงเช้า ตื่นเต้นจัง วันนี้ฟ้าจะสวยมั๊ยนะ แล้วธรรมชาติจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์กันอีก บางทีก็คิดนะว่าตอนมาเที่ยวก็อยากจะนอนตื่นสายบ้าง แต่พอนึกถึงแสงสวยๆในตอนเช้าก็อดใจไม่ไหวทุกที วันนี้คงไม่ได้ไปไหนไกล ยืนรอพระอาทิตย์อยู่แถวหน้าวิลล่านี่แหละ และแล้วนาทีแห่งการอคอยก็มาถึง จากท้องฟ้าที่มืดๆก็ค่อยๆสว่างขึ้นมาทีละนิด

ในขณะที่แสงสีทองกำลังสาดส่องไปทั่วท้องฟ้า เราก็เจอเพื่อนใหม่ที่แวะมาทักทายกันโดยไม่คาดฝัน เจ้าปลากระเบนน้อยว่ายผ่านหน้าไปอย่างช้าๆ วินาทีนั้นฉันทั้งตกใจทั้งตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า แล้วก็นึกขอบคุณเจ้าปลากระเบนตัวนั้นที่ทำให้วันนี้เป็นวันที่ดี ได้ยิ้มแต่เช้าเลย

102.jpg
103.jpg

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย ก็เป็นเวลาที่จะได้พักผ่อนจริงๆซักที เรานั่งเล่นนอนเล่นถ่ายรูปในวิลล่ากันเรื่อยเปื่อย ข้อดีของการมาเที่ยวคือการที่สมองได้พักจากเรื่องงาน ได้เจอได้เห็นอะไรใหม่ๆ ทุกอย่างล้วนเป็นกำไรชีวิตทั้งนั้น

Dress & Shirt : Again & Again
Bag : IG Made.in.paradise

ห่วงยางแฟนซี เช่า/ขาย : Party_float

108.jpg
109.jpg
110.jpg
111.jpg
112.jpg
113.jpg

“ตาล ดาวเพิ่งนึกอะไรออก เราเอาโดรนมานี่หว่า เอามาบินกันนนน” ฉันนึกขึ้นได้เลยรีบบอกตาล ถ้าพลาดนี่เสียใจเลยนะเนี่ย เจ้า Mavic pro ที่เพิ่งถอยมาใหม่อันนี้ ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวกมากซะจนเกือบลืมว่ามีมันอยู่ อยากจะเห็นความสวยงามของมัลดีฟจากมุมสูง เหมือนที่นกเห็นเหมือนกันว่าจะเป็นยังไง : )

Drone : DJI Premium Reseller by 13 Store

115.jpg
116.jpg

หลังจากทานอาหารกลางวันอิ่มแล้ว เดินเล่นแป๊ปนึงก็จะถึงเวลาที่รอคอย นั่นก็คือเรียนเซิร์ฟนั่นเอง ปกติดูหนังก็จะเห็นพวกฝรั่งเค้าเล่นเซิร์ฟกันเท่ๆ บางอารมณ์ก็อยากจะลองดูมั่งนะว่ามันจะยากแค่ไหน ครั้งนี้สบโอกาส ที่นี่มีคลาสสอนพอดีก็เลยจะลองดูซักตั้ง ลองเล่นเซิร์ฟครั้งแรกที่มัลดีฟนี่แหละ น้ำใสๆ ฟินดี


“โอ๊ยย แดด ทำไมมันร้อนอย่างเง้” ตาลบ่น เออ ร้อนจิง ฉันรู้สึกได้ถึงความร้อนระอุที่ผิว ก่อนที่จะเริ่มเรียน เราบินโดรนมุมสูงส่องลงมาเห็นคนสอนทำท่า Head Stand บนบอร์ดด้วย หืออ อะไรจะ Advance ขนาดนี้ พอถึงเวลาของเรา คนสอนเดินเข้ามาใกล้ๆ “ เหย ตาล แน่ใจหรอนี่คนสอนเล่นเซิร์ฟ หน้าตาดีเหมือนนายแบบเลยว่ะ” ตาลหัวเราะที่เราเม้าระยะประชิด ครูสอนเสิร์ฟชื่อ Zac เป็นหนุ่มจากออสซี่ที่หลงรักมัลดีฟ ด้วยความที่เค้าเป็นคนตลก ร่าเริง ยิ้มง่าย ทำให้การเรียนเซิร์ฟครั้งแรกไม่เครียดเลย เหมือนเป็นการเล่นเอาฮามากกว่า “แค่นี้ก็สนุกแล้วเนอะ ไม่ต้องไปเล่นตรงคลื่นใหญ่ๆหรอก ลองให้รู้ ไปฝึกเองแล้วค่อยมาเรียนแบบ Advcance ใหม่” ฉันหันไปบอกตาลด้วยเสียงหอบ “โห แค่ยืนบนบอร์ดยังทรงตัวยากเลย ถ้าไปตรงคลื่นใหญ่ๆเราสองคนตายแน่ๆ 5555” เออ ก็จิง การเล่นเซิร์ฟนี่มันยากกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะ ต้องอาศัยการฝึกฝน การทรงตัวที่ดี แขนขาต้องแข็งแรง แต่ครั้งนี้ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่สนุกๆมากๆแล้ว

119.jpg
120.jpg

กลับไปที่ห้องตัวยังไม่ทันแห้งก็กระโดดเล่นน้ำต่อ ความสวยของสระทำให้ห้ามใจไม่ไหวทุกที

Camera : KK Camera

Swimsuit : Yo rata

121.jpg
122.jpg

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเราออกมาเดินเล่นดูพระอาทิตย์ตกริมทะเล "อู้หูววว ฟ้าสวยมากๆ สีหวานเชียว ตาลมองไปตรงนั้นสิ" ฉันพูดพร้อมทั้งชี้มือไปยังท้องฟ้าตรงจุดที่สวยที่สุด พร้อมกระโดดโลดเต้นริมหาดแบบสุขสุดๆ แล้วตาก็เหลือบไปเห็นจักรยานสีขาวจอดอยู่ ฉันนึกขึ้นได้ตั้งแต่มานี่ยังไม่ได้ขี่จักรยานเลยนี่นา "ตาลๆ ดาวอยากขี่จักรยานเล่น ถ่ายรูปให้หน่อยจิ" นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ไม่ได้ขี่จักรยานแบบนี้ "ดาว ขี่วนมาทางนี้ๆ" เสียงตาลเรียก ตอนแรกทรายมันก็เรียบๆดีอยู่หรอกนะ ฉันขี่ขึ้นมาบนกองทรายทำไมเนี่ย ซักพักก็รู้สึกเหมือนจะเสียการทรงตัว "โครมมม! ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ตอนนี้ฉันนอนตัวเอียงอยู่บนหาดทราย พร้อมทั้งมีจักรยานสีขาวทับบนตัว ไม่มีเสียงร้องแม้แต่แอ่ะเดียว แต่หน้าเริ่มเบ้ ตาลช๊อค นิ่งไปสามวิ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องวิ่งมาช่วยยกจักรยานออก ตอนนั้นเริ่มรู้สึกเจ็บๆ แสบๆมองไปที่หัวเข่ากับข้อศอกเลือดไหลออกมาซิบๆ ฉันคิดอยู่ในใจ สงสัยที่ผ่านมาจะโชคดีเกินไป ธรรมชาติเลยสร้างความสมดุลให้ได้เจ็บตัวซักหน่อย 5555

123.jpg
124.jpg

คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ได้อยู่ที่นี่แล้ว กลับไปก็คงจะนึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุข น้ำทะเลสีฟ้าใส คิดถึงปลาโลมา ปลากระเบน และปลาหน้าแปลกๆที่ได้พบเจอ 

125.jpg
127.jpg
126.jpg
128.jpg

เราจะต้องคิดถึงที่นี่แน่ๆ Niyama Private Islands Maldives

แล้วเจอกันใหม่นะ... มัลดีฟ

bottom of page