
Penang City Guide



อยู่ๆก็เกิดฟิลลิ่งอยากจะใช้ชีวิต Slowlife อยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งชิลในคาเฟ่ เดินเล่นถ่ายรูปสวยๆที่ไม่ใช่ในเมืองไทยบ้าง ปีนังคือคำตอบ!!
ได้มาสัมผัสที่นี่ครั้งแรกก็ติดใจซะแล้ว เมืองอะไรทำไมน่ารักมีเสน่ห์แบบนี้!! ริมถนนสองข้างทางมีแต่คาเฟ่เก๋ๆ และร้านอาหาร Local อร่อยๆเต็มไปหมดเดินถึงกันง่ายไม่ยุ่งยาก มุมถ่ายรูปฮิปๆไม่ต้องพูดถึง เยอะเว่อร์ ถ่ายกันจนเมมเต็ม บ้านเก่าย้อนยุคสไตล์ชิโนโปรตุกีสสวยเพลินตาเพลินใจที่สุด ใครที่ชอบอะไรแนวนี้ควรมาเที่ยวปีนัง เพราะที่นี่มีครบทุกอย่าง เป็น Retro Chic City และ Foodie Paradise ที่แท้ทรูเลย
รับรองว่ามาครั้งเดียวไม่พอ ที่เลิศคืออยู่ใกล้เมืองไทยมาก ลางานวันศุกร์กลับวันอาทิตย์สบายๆ ในรีวิวนี้มีแนะนำสถานที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด และ 15 ร้านเด็ดไว้ให้ตามรอย!! แชร์สิคะรออะไร : )


ไปปีนังไปกับแอร์เอเชียนะคะ นั่งเครื่องมาแป๊ปเดียวไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ถึงปีนังละ แอร์เอเชียมี 2 ไฟล์ทต่อวัน เลือกได้เลยตามสะดวก : )



เรื่องน่ารู้ในปีนัง
- ที่ถูกใจมากที่สุดคือการเดินทาง ไปไหนก็สะดวก ใช้บริการ Grab ตลอด ปีนังเป็นเกาะเล็กๆ ที่เราไปแต่ละที่ก็ห่างกันไม่มาก เรียกครั้งนึง 4 ริงกิต เท่ากับ 40 บาทเอง ถูกมาก ประทับใจ จากโรงแรมไปสนามบินไกลหน่อยก็จะประมาณ 23 ริงกิต หรือ 230 บาท ราคาน่ารัก ^^ ตอนลงจากรถคนขับชอบบอกว่า อย่าลืมให้5ดาวนะ 5555
- ผู้คนน่ารัก เป็นมิตร สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมาก
- บ้านเมืองเค้าบรรยากาศคล้ายไทย เหมือนกับเอาแถบเยาวราช ข้าวสาร สำเพ็ง พาหุรัดมารวมกัน โดยรวมๆที่นี่มีเสน่ห์มาก
- ตอนกลางคืนถ้าเบื่อๆ ไปเดินเล่นแถว Lovelane ได้ มีผับ บาร์ Streetfood อร่อยๆ ร้านนวด ร้านผลไม้ มีครบหมด
- หอยทอดร้านหัวมุมและเคบับแกะตรงข้ามเซเว่น Lovelane โคดอร่อย
- ปีนังเป็นเมืองที่มาแล้วเมื่อยมือมาก ยกกล้องถ่ายรูปไม่หยุด มุมสวยๆเยอะ รูปมีโพสได้ถึงปีหน้าเลย ตึกเก่าสวย มีเสน่ห์ บรรยากาศชิลๆ อยู่ที่นี่แล้วมีความสุข
- อาหาร Street food ที่ลองชิม อร่อยทุกอย่าง รับรองว่าถูกปากคนไทยแน่ๆ มีออส่วนหอยนางรม ผัดหมี่ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ อะไรพวกเนี้ยเด็ด
- ว่าจะไปนวดซะหน่อย แต่เห็นราคาแล้วเปลี่ยนใจ (นวดเท้า ชมละ 64 ริงกิต ประมาณ 640 บาท) เลยเก็บความเมื่อยไว้ก่อน กลับไปนวดที่ไทยดีกว่า
- อากาศที่นี่ร้อนตลอดปี เดินแป๊ปเดียวเหงื่อออกท่วมตัว ผมที่ม้วนมาคลายหมด เพราะหัวเปียก 55555
- พกร่มมาด้วย อากาศที่นี่ไม่ค่อยแน่นอน บางวันแดดออกดีๆ ฝนตกเฉย
- Street Arts มีอยู่ทั่วเมือง แอบอยู่ในซอยเล็กซอยน้อยเต็มไปหมด
- แปะก๊วยร้อนแถวถนนคิมเบอร์ลี่ อร่อยมาก นุ่มๆหนึบๆ ไม่หวานมาก กำลังดี
- โรงแรม Eastern & Oriental เป็นโรงแรมเก่าแก่ คลาสสิคที่สุดในปีนัง อยู่ติดทะเลด้วย ตอนนอนในห้องจะได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ เพลินมาก ฟิลเหมือนมาพักร้อนตากอากาศ นอนหลับสบายมากไม่อยากจะตื่น
ไปดูเรื่องราวที่น่าสนใจในปีนังกันค่ะ








ที่พัก
รอบนี้เราพักที่ Eastern & Oriental Hotel โรงแรมนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมที่เก่าแก่และคลาสิคที่สุดในปีนัง เห็นในรูปแล้วรู้สึกว่าโอ๊ย สวยจัง อยากจะลองมานอนดูซักครั้งว่าจะฟินแค่ไหน แล้ววันนี้ก็มีโอกาสได้มาพักที่นี่จริงๆซักที บรรยากาศในโรงแรมดีงามและละมุนไม่ต่างจากที่คิดไว้เลย เปิดประตูห้องนอนออกมาเจอวิวทะเล ของตกแต่งห้องต่างๆก็สวยเก๋ มีกลิ่นอายความวินเทจ มีเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ หลับสบายแทบไม่อยากจะตื่น
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่เลยค่ะ : www.whenwewander.com/eastern-oriental
Eastern & Oriental Hotel










บรรยากาศเมืองทั่วไป
บรรยากาศทั่วไปของปีนังทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินมาก ไม่ว่าจะเป็นการดูวิถีชีวิตผู้คน ดูตึกรามบ้านช่องวินเทจสวยๆ ความผสมผสานของวัฒนธรรมที่นี่ทำให้ทุกอย่างดูพิเศษและมีเสน่ห์ต่างจากที่อื่น



Trishaw สามล้อถีบโบราณ
มาเที่ยวปีนังแล้วอย่าลืมนั่งสามล้อถีบนะ สนุกดี สามล้อถีบจะมีให้บริการอยู่ทั่วไปรอบๆเมือง พอเค้าบอกราคามาเราก็ต่อราคาไปนิดหน่อย ราคาประมาณ 20 ริงกิต นั่งวนเมืองรอบนึงก็ประมาณ 10-15 นาที เซอร์ไพรส์มากตรงที่คนถีบสามล้อพูดภาษาอังกฤษดีมาก อธิบายความเป็นมาของตึกต่างๆได้ดีเยี่ยม เป็นน้องๆไกด์ได้เลยนะเนี่ย








Street Arts
จุดเด่นของปีนังคือความอาร์ต พวก Street Arts รูปภาพตามกำแพงต่างๆนี่มีให้เห็นทั่วไปเต็มเมืองไปหมด มีหลายแบบหลายแนว บางรูปสวยมากจนอยากเห็นหน้าคนวาดเลยทีเดียว นอกจาก Street Arts แล้วก็ยังมีพวก Arts Gallery อีกเยอะมาก มีทั้งภาพถ่ายและ Painting สวยๆให้เราเพลินตาเพลินใจกีนได้ทั่งวัน คนรักงานศิลปะแบบเรามาที่นี่ก็รู้สึกเติมเต็มและหลงเสน่ห์เมืองนี้ตั้งแต่แรกพบ


ศาลเจ้าแม่กวนอิม (Tokong Kuan Yin)
ที่นี่สร้างเมื่อปีค.ศ.1728 หรือราวๆสองร้อยกว่าปีมาแล้วโดยชาวจีนฮกเกี้ยนและชาวจีนกวางตุ้งกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาตั้งรกรากในปีนัง เรานับถือเจ้าแม่กวนอิมอยู่แล้วเลยรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้มีโอกาสมาสักการะที่ศาลนี้ ได้จุดเทียนใหญ่ๆ ไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมลคล


















Peranakan Mansion
เป็นคฤหาสน์เก่า ที่ดัดแปลงพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุและของสะสมต่างๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเปอรานากัน ที่นี่มีหลายห้องมาก แต่ทีเด็ดอยู่ที่ตึกด้านข้าง ชอบตรงนี้ที่สุด เป็นมุมที่เค้ามีรูปบรรพบุรุษไว้กราบไว้ เราจะรู้สึกได้ถึงความเก่าแก่ ความลึกลับ และความขลัง ที่สำคัญถ่ายรูปออกมาสวยมาก พิพิธภัณฑ์ด้านข้างตัวอาคารหลักก็มีของโบราณที่น่าสนใจเต็มไปหมด ควรแวะไปเดินดูให้ทั่วๆเลยค่ะ











Blue Mansion หรืออีกชื่อคือ Cheong Fatt Tze Mansion
Cheong Fatt Tze เป็นชื่อของคหบดีชาวจีนที่อพยพมากจากเมืองจีนแบบเสื่อผืนหมอนใบมาสู่เมืองปีนัง ก่อร่างสร้างตัวจนเป็นมหาเศรษฐีครอบครองธุรกิจที่ดินในหลายประเทศในแถบเอเชียทั้ง มาเลเชีย สิงคโปร์ ฮ่องกง อินโดนีเชีย และที่ปีนัง คฤหาสน์สีฟ้าหลังนี้สวย และมีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง เอกลักษณ์คือโทนสีฟ้า เป็นสีหลักที่เห็นได้ทั่วไปในตัวบ้าน ที่นี่ได้รับรางวัลมากมาย เช่น 2000 UNESCO 'Most Excellent' Heritage Conservation Award, หรือ Lonely Planet จัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบ Mansion ของโลก ถ้าเราไม่ได้พักที่นี่ก็จะไม่สามารถเข้าไปเห็นส่วนในได้ จะเห็นแค่ส่วนนอก ที่นี่มีห้องอาหารที่น่ารักมาก อาหารอร่อยราคาสมราคาชื่อ Indigo มีรายละเอียดอยู่ด้านล่างค่ะ


Chew Jetty
เป็นหมู่บ้านชาวประมง มีสะพานไม้ทอดยาวลงไปในทะเล ซ้ายขวาเป็นบ้านเรือนของชาวประมงท้องถิ่น คนนิยมไปถ่ายรูปเล่นกันที่นี่ ตอนที่เราไปตรงนี้้เป็นเวลาเย็น นึกว่าจะไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกซักหน่อย แต่ดันเป็นวันที่เมฆครึ้มเลยไม่เห็นแสงอะไรเลย แต่ก็ไปนั่งเล่นอยู่ตรงสะพานพักนึงนะ นั่งมองผู้คน มองบ้านชาวประมง ไม่รู้ทำไมเวลาเห็นวิถีชีวิตผู้คนต่างถิ่นต่างแดน เรามักจะรู้สุกสุขในใจทุกที รู้สึกขอบคุณที่พาตัวเองออกมาเห็นโลกในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน





Art Exhibition ติดกับ Awesome Café ร้านสีขาวๆ
ที่นี่อยู่ใกล้ๆกับร้าน Awesome Café’ ด้านหน้ามีเขียนว่า 162 Victory ข้างในตกแต่งโทนสีขาวสบายตา แล้วก็มีรูปนกสวยๆเต็มไปหมด คนรักนกควรแวะมาที่นี่








ร้านเสื้อผ้า Sixth Sense อยู่ไม่ไกลจาก China House (หันหน้าเข้าร้าน China House แล้วเดินไปทางด้านขวา)
ร้านเสื้อผ้าร้านนี้น่ารัก มีของน่าซื้อเต็มไปหมด ร้านก็สวย โทนสีเสื้อผ้าจะออกแนว Earth Tone ราคาไม่ถูกเท่าไหร่ แต่ถ้าเดินนานๆรับรองได้เสียตังค์แน่ๆ นอกจากเสื้อผ้าแล้วยังมีพวก กระเป๋า รองเท้า และของแต่งบ้านด้วย



Exhibition about adoption animal from the shelter (หันหน้าเข้าร้าน China House แล้วเดินไปทางด้านซ้าย)
ไม่รู้ Exhibition นี้จะมีถึงเมื่อไหร่แต่แนะนำให้ลองไปดู เจอผนังนึงเพ้นส์สวยถูกใจมาก เป็นรูปที่ชอบที่สุดในปีนังเลยก็ว่าได้ พื้นหลังเป็นสีดำ มีดอกไม้สวยๆบานเต็มไปหมด โทนสีและอารมณ์ในภาพดีมาก และที่ชอบสุดคือมีน้องแมวอยู่ในภาพด้วย เราเป็นคนที่ชอบทั้งแมว ชอบทั้งดอกไม้เลยหลงรักรูปนี้เข้าไปเต็มๆ







Han Jiang Ancestral Temple
เราเดินมาเจอที่วัดนี้โดยบังเอิญ ตอนแรกเห็นด้านหน้าสวยดีมีโคมแดงๆตัดกับสีชุดและร่มที่ถือเลยถ่ายรูปไว้ พอเดินเข้าไปก็เจอกับมุมให้ไหว้พระ ชั่วขณะนั้นตอนที่กำลังไหว้ มีความรู้สึกสงบใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นความบังเอิญที่ดีมากที่ได้แวะเข้าไปที่นี่
เล่าถึงสถานที่น่าสนใจไปหมดแล้ว คราวนี้มาดูคาเฟ่และร้านเด็ดๆที่มีของกินอร่อยๆกันมั่งค่ะ
อ่านรีวิวคาเฟ่และร้านอาหารฉบับเต็มได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างเลยค่ะ
v
Penang Food Guide







Indigo Restaurant
ที่นี่เป็นร้านอาหารใน Blue House แนะนำที่นี่มากๆ ร้านสวย บรรยากาศดี บริการก็เลิศ เซตอาหารกลางวันคนละ 65 ริงกิต หรือประมาณ 650 เอง
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ







China House
ที่นี่เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งได้เก๋และฮิปถูกใจมาก มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด ที่สำคัญคือที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นคาเฟ่ที่ยาวที่สุดในปีนัง ถ้าได้มาแล้วอย่าลืมลองเดินไปให้สุดทาง ด้านในสุดจะเป็นมุมนั่งเล่น Outdoor มีประตูทรงกลมให้เดินลอดและมีรูปลิงหงอคงเท่ๆวาดอยู่บนกำแพง แนะนำว่าอย่าลืมถ่ายรูปกับมุมนี้ไว้เป็นที่ระลึก อาหารที่นี่มีหลายอย่างให้เลือก ส่วนใหญ่จะเน้นอาหารฝรั่ง ให้มาจานค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว นอกจากอาหารฝรั่งแล้ว ที่นี่ดังเรื่องเค้กมากๆ มีหลายชนิดให้เลือกแบบเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ







Pinxin
ที่นี่เป็นร้านเด็ดในปีนังที่เหมาะสำหรับคนรักผักและรักสุขภาพ จริงๆจะว่าไปเป็นร้าน Vegan ที่อร่อยสุดตั้งแต่เลยกินมาเลยดีกว่า รสชาติอร่อยเหมือนกินอาหารปกติเลย แนะนำสเต๊ะเห็ด อร่อยมาก กรอบเบาๆ กินเพลินสุดๆโดยรวมคือชอบความพิถีพิถันของร้านนี้มาก เจ้าของเป็นคู่สามีภรรยาคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ เจอแป๊ปเดียวแต่รับรู้ได้ถึงความน่ารักของเค้า ในร้านบรรยากาศดี เพลงเพราะ ขายอาหารสุขภาพแล้วยังอร่อยแบบนี้คือเจ๋งมาก แล้วหลอดของที่นี่เค้าก็ไม่ใช้พลาสติกด้วยนะคะ เป็นแบบสแตนเลส เสร็จแล้วก็ให้แขกกลับบ้านเป็นที่ระลึกด้วย ใครมาเที่ยวปีนังอยากลองทานอาหารเพื่อสุขภาพ แนะนำร้านนี้
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ







Traditional English Afternoon tea @1885
ห้องอาหารนี้อยู่ในโรงแรม Eastern and Oriental Hotel ตั้งชื่อว่า1885 ตามปีที่โรงแรมนี้ได้ก่อตั้งขึ้น ถ้าใครมาเที่ยวปีนังแล้วอยากจะหาที่บรรยากาศดีๆ จิบชายามบ่ายล่ะก็ แนะนำให้มาที่1885 เลยค่ะ ช่วงเวลาของ Afternoon Tea จะอยู่ระหว่าง 2 โมง ถึง 5 โมงเย็น บรรยากาศภายในร้านสวยงาม เซตชาและขนมต่างๆถูดจัดมาให้ด้วยความบรรจง ทำให้ช่วงเวลาสั้นๆที่อยู่ที่นี่เป็นเวลาที่เพลิดเพลินกับความสวยงามกับบรรยากาศย้อนยุคแบบผู้ดีอังกฤษ ความละมุนของชาชั้นดี และความอร่อยกลมกลมของขนมหวานที่มาเสิร์ฟ
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ







Wheeler Coffee
ร้านนี้อยู่ใน Lovelane เป็นร้านที่วัยรุ่นที่นี่ฮิตมากันมาก ดูใน IG เห็นคนบอกว่าติดใจไก่ Espresso อร่อยมากเว่อ เห็นรูปแล้วก็รู้สึกว่า เออ น่ากินจิงด้วย เลยอยากจะมาลองมั่ง 5555 บรรยากาศในร้านจะฮิปๆตกแต่งตามคอนเซปร้านก็คือประดับด้วยล้อต่างๆเต็มไปหมด ร้านไม่ใหญ่มาก บนผนังก็จะมีภาพเก๋ๆเป็นรูปรถจักรยาน ดูมี Story ดูมีดีเทลดี เมนูไก่ ก็อร่อยสมคำร่ำลือ แต่ต้องบอกก่อนว่ารสจะหวานนิดนึง ใครที่ชอบรสหวานคงถูกใจ แต่ถ้าใครไม่ชอบหวานขอให้ไปลองเมนูอื่น ร้านนี้มีทีเด็ดอีกอย่างคือลาวาชาเขียว ชาเขียวแบบเข้มข้นๆ เสริฟ์มาพร้อมไอติมกับสตอเบอรี่ อร่อยมากก แป๊ปเดียวเกลี้ยงจาน
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ
FB : https://www.facebook.com/wheelers67/







Awesome Cafe
ร้านนี้มาเพราะเห็นคนชอบมาถ่ายรูปกัน ในร้านก็จะแต่งแบบดิบๆ เท่ๆ ดีตรงที่เพดานสูงทำให้ร้านดูโปร่ง โล่ง นั่งแล้วชิลดี เราสั่ง Hot chocolate กับ เค้ก Lemom Tard มารสชาติโดยรวมก็ดีใช้ได้ แต่คือได้กินเค้กอร่อยๆเทพที่ร้าน China House มาแล้วที่นี่เลยไม่ได้ตื่นเต้นมาก แต่ชอบการตกแต่ง ชอบบรรยากาศ ถ้ามาที่นี่ในวันที่มีแดดจะเห็นแสงเงาส่องลงมาสวยมาก
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ
FB : https://www.facebook.com/awesomecanteenpg/







Two Buns
ร้านนี้มาเพราะชอบหน้าร้าน สวยดีๆ 5555 ลองเบอร์เกอร์ไก่ไปหนึ่งชิ้น รสชาติอร่อยใช้ได้ ไก่นุ่มๆ ตรงหนังกรอบๆเบาๆ อร่อยดี ชอบ Mood Tone ของร้าน มันดูชิคๆ คูลๆ ยิ่งมีตู้เกมส์แบบโบราณตั้งอยู่ยิ่งทำให้ร้านนี้ดูฮิปขึ้นไปอีก กินเบอร์อยู่ก็เห็นคนมานั่งเล่นเกมสตรีทไฟเตอร์กันตั้งหลายคน เพลินดี
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ
FB : https://www.facebook.com/twobunspenang/







Narrow Marrow
หันหน้าเข้าร้าน Two buns ร้านนี้จะอยู่ทางซ้ายมือถัดไปไม่ไกล บรรยากาศร้านเล็กๆ แคบๆสมชื่อเลยแฮะ เค้าแต่งแบบรกๆแต่เก๋ดี มีความเป็นกันเองเหมือนมานั่งเล่นห้องเพื่อน มาถึงจุดนี้เอาจิงๆ กินอะไรไม่ลงแล้ว คาเฟ่ฮอปมาทั้งวัน อิ่มมากกก ที่ปีนังวันไหนแดดออกนี่ร้อนตับแลบเหมือนกันนะ สั่งลาเต้เย็นมานั่งดับร้อนก็เป็นไอเดียที่ดี รสชาติกลางๆพอใช้ได้ แต่บรรยากาศร้านเซอร์ดี ชอบ
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ
FB : https://www.facebook.com/NARROWMARROW/



Bricklin Cafe and Bar
อยู่ตรง Hin Bus Depot เป็นท่ารถเก่าที่ตอนนี้เค้า renovate มาทำ Art and Events Space โดยก็จะมีคาเฟ่เก๋ๆ บาร์ชิคๆ แล้วก็ weekend market (https://hinbusdepot.com/space.html) เจอร้านนี้โดยบังเอิญ แบบไม่ได้ตั้งใจมา ร้านตกแต่งด้วยอิฐแมทช์กับชื่อร้านอีกแล้ว ร้านไม่ได้มีคอนเซปต์อะไรมากมาย แต่แวะเข้ามานั่งสั่งเครื่องดื่มพักเหนื่อยก็โอเค แถวนี้มี Street Arts สวยๆเยอะ แล้วแถวๆหน้าร้านก็จะมีรถเก่าหน้าตาประหลาดๆจอดเป็นพร๊อบให้เข้าไปถ่ายรูปเล่นด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ
FB : https://www.facebook.com/BricklinCafeBar/


Coffee on the Table แมว 3D
เดินผ่านร้านนี้ก็รู้สึกว่าเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรเด่น ดูธรรมดาๆ แต่ด้วยความที่เดินเยอะแล้วเมื่อยเลยกะจะเข้าไปนั่งพักตากแอร์เย็นๆ ปรากฏว่าแจ็คพอต เจอความมุ้งมิ้งที่แอบซ่อนอยู่ นั่นก็คือเมนู 3D coffee นั่นเอง ในเมนูมีตัวน่ารักๆเต็มไปหมด คนทำทำเก่งมาก
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ
FB : https://www.facebook.com/THEDINEMANSIONcoffeeonthetable/


Toh Soon Cafe
ไปสายคาเฟ่กันเยอะแล้ว มาดูร้านเด็ดร้านดั้งเดิมของที่นี่กันบ้าง ขอแนะนำร้านนี้เป็นร้านแรก บอกก่อนเลยว่าใครจะไปร้านนี้ถ้าไม่อยากต่อคิวนาน ควรไปเร็วๆหน่อย ไปตั้งแต่ร้านเปิดเลยยิ่งดี ของอร่อยที่ไม่ควรพลาดก็คือขนมปังเตาถ่านในตำนาน โดยเฉพาะขนมปังเตาถ่านหน้าสังขยา กินกับชานมหรือกาแฟร้อนๆอร่อยเหาะไปเลย
รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่นะคะ
FB : https://www.facebook.com/tohsooncoffeestall/


Granny’s Omelette
ร้านนี้กินเพราะบรรยากาศริมถนนตรงนี้มันได้ฟิลลิ่ง เป็นร้านริมถนนตรงหัวมุม ชอบรูปคนขายที่ถ่ายมามาก เค้าขายหอยทอด เป็นของโปรดอยู่แล้ว ลองสั่งมากินแล้วดันอร่อยอีก แนะนำๆ ไปนั่งกินเอาบรรยากาศ สนุกดี อารมณ์เหมือนอยู่แถวเยาวราชเลย


Tai Tong
ร้านนี้ขึ้นชื่อว่าติ่มซำอร่อย แต่ตอนเราไปเป็นช่วงบ่าย ของเลยเหลือน้อยเลย สั่งมาแต่ขนมจีบกุ้งกับราดหน้า ราดหน้ารสชาติกลมกล่อมแบบคนดั้งเดิมทำ ให้กุ้งตัวใหญ่ด้วย อร่อยดี เสียดายตรงที่ไม่ได้มาตอนที่พีคเลยอดชิมจริงจัง อยากกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพราะบรรยากาศร้านนี้แอบน่ารักตรงที่จะมีอาม่าเป็นคนเข็นรถติ่มซำต่างๆ ดูเป็นบรรยากาศที่น่ารักและค่อนข้าง original


Sin Guat Keong
ละแวกนี้จะคึกคักเป็นพิเศษตอนเย็นๆ พิกัดอยู่แถวๆหัวมุมถนน Kimberly ของกินเต็มถนนเลย ร้านที่เราเข้าไปเป็นร้านหัวมุม อารมณ์บ้านๆดั้งเดิมดี สั่งมา 2 อย่างคือ ข้าวหมูแดด หมูกรอบ เป็ด รวบมาสามอย่างในจานเดียว แล้วก็สั่งหอยทอดมากินอยากรู้ว่าจะอร่อยเหมือนที่เคยกินแถวๆ Lovelane มั๊ย ปรากฏอร่อยกว่าอีกจ้า ดีงามทั้งสองอย่างที่สั่ง อิ่มใจอิ่มท้องในราคาย่อมเยาว์
แผนที่ไปร้านค่ะ : https://goo.gl/maps/unW8jyPFA282


Hon Kei Food corner
มีคนแนะนำว่าอาหารที่นี่อร่อยก็เลยแวะมาเช้าวันสุดท้ายที่จะบินกลับ หื้มม ดีงามใช้ได้ ไม่ผิดหวังที่มา และคิดถูกมากที่สั่งมาจานเดียวเพราะให้จานใหญ่เชียว กินสองคนกำลังพอดี เมนูที่สั่งมันเป็นเหมือนก๋วยเตี๋ยวแต่ใส่เส้นอูด้งเส้นเล็กๆแทน รสชาติเหมือนก๋วยจั๊บยวญ น้ำซุปกระดูกหมูอร่อย ซดเพลินสุดๆ
แผนที่ไปร้านค่ะ : https://goo.gl/maps/WN5qKWdK7SC2

Old Trafford Berger
อย่างสุดท้ายที่จะแนะนำคือ เป็นร้านรถเข็นอยู่ตรงข้ามกับเซเว่น หัวมุมทางเข้า Lovelane ชื่อร้านเป็นเบอร์เกอร์แต่เราสั่งเคบับแกะ กลมกล่อมดีงาม แป้งนุ่มๆ แกะรสชาติดี ใครชอบเคบับอยากให้ลองชิมร้านนี้




สรุปว่าหลงรักปีนังสุดๆ
อยู่ใกล้ไทย ตั๋วถูก ค่าครองชีพถูก อาหารก็อร่อย เมืองน่ารัก
ต้องกลับไปอีกแน่นอนค่ะ
#ไปปีนังไปกับแอร์เอเชีย : )