Supanniga Home
พอรถจอดเสร็จก็มีพนักงานมารอต้อนรับ และเอารถเข็นไม้มารอขนกระเป๋าไปที่ห้องพัก Welcome drink ที่เตรียมให้คือชาผู่เอ๋อใส่น้ำแข็ง อั้มบอกว่าชาผู่เอ๋อเป็นชาที่หายาก และถือว่าเป็นชาที่ได้รับความนิยมในประเทศจีนมานานแล้ว ขึ้นชื่อเรื่องสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์มาก
ฟังเพื่อนพูดไปด้วย จิบชาเย็นๆไปด้วย ฟินดีนะ เคยเป็นมั๊ย อะไรก็ตาม ถ้าเราได้รู้ถึงประวัติ เราจะอินกับมันเพิ่มอีก 50% 5555
หลังจากนั้นก็ได้เวลาไปที่พัก พูดตรงๆเลยว่าอึ้งมาก พอก้าวเข้าไปในห้อง หันซ้าย หันขวา เรารีบหันไปถามอั้มทันที
"เฮ้ยยยยย อั้ม ห้องสวยขนาดนี้ ทำไมเราไม่เคยรู้มาก่อนเลย ในเฟสบุ๊คก็ไม่เห็นเคยลง" อั้ม ยิ้ิมอายๆ พร้อมทั้งบอกว่า "เราก็ลงนะ แต่คงไม่มีใครเห็น" ถามไปถามมาได้ความว่า ห้องพักที่นี่ คุณแม่อั้มเป็นคนออกแบบทั้งหมด ทุกอย่างดูเข้ากันอย่างลงตัว มีดีเทลเก๋ๆเต็มไปหมด จุดเริ่มต้นของที่นี่มาจากการที่แม่ชอบปลูกต้นไม้ ต้นไม้ที่นี่ก็เป็นฝีมือแม่ที่ปลูกเองทุกต้น ตอนแรกตั้งใจจะทำที่นี่เพื่อเป็นที่พักสำหรับผู้ที่มานั่งวิปัสนากรรมฐาน จนกระทั่งมาถึงรุ่นลูกๆก็เลยต่อยอดให้กลายเป็น HomeStay แบบทุกวันนี้
ห้องที่พวกเราพักชื่อว่า Velu Villa เวฬุแปลว่าไม้ไผ่ ห้องนี้ก็เลยถูกรายล้อมไปด้วยต้นไผ่ และใช้ไม้ไผ่เป็นส่วนประกอบหลักในการตกแต่ง ห้องนี้จะออกแนวโมเดิร์นแต่มีการผสมผสานกับความเป็นไทยและธรรมชาติเข้ามาด้วย มองไปทางไหนก็สบายตากับโทนขาวๆไม้ๆ วิลล่านี้มีตั้ง2ห้องเราเลยบอกอั้มว่า มานอนด้วยกันห้องเดียวเลยนะจะได้ไม่เปลืองแอร์ จริงๆถ้าพาครอบครัวมาด้วยพักที่นี่ก็คงสนุกสนานเพราะพื้นที่ใหญ่มาก มีสระว่ายน้ำJacuzzi ส่วนตัว แล้วก็มีครัวใหญ่ๆที่สามารถทำอาหารกันเองได้ด้วย ห้องเตียงเดี่ยวพร้อม Jacuzziจะอยู่ฝั่งซ้าย ห้องใหญ่เตียงคู่จะอยู่ฝั่งขวา
ไหนๆมาแล้วเลยขออนุญาติเข้าไปดูอีกสองห้องที่เหลือห้องที่ 2 มีชื่อว่า Banyan Villa จะเป็นห้อง Double Bedroom นอนได้สองคน เปิดเข้าไปก็ชอบอีกแล้ว ห้องนี้จะมีกลิ่นอายความเป็นไทย ผสมกับศิลปะของอีสาน เตียงน่ารัก มีความรู้สึกว่านอนเตียงนี้แล้วคงจะฝันดี บรรยากาศห้องนี้เหมือนได้ย้อนยุคไปสมัยโบราณ แต่ที่ชอบและสะดุดตาที่สุดก็คืออ้างล้างหน้ากับกระจกโบราณที่อยู่ท้ายห้อง ชื่นชมการออกแบบที่กล้าแหวกแนว และความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ การเลือกของประดับที่ลงตัว ทำให้บรรยากาศดูมีเสน่ห์มากๆ
ห้องสุดท้าย คือห้อง Lomlaeng Villa ห้องนี้เป็นห้องที่มีเตียงเดี่ยวสองเตียง เตียงจะวางอยู่บนตั่ง คล้ายๆกับร้านนวด เห็นเตียงนี้แล้วเกิดอาการง่วงอยากนอนขึ้นมาเลย ฮ่าๆ รู้สึกว่าเตียงน่านอนมาก ด้านหน้าทางเข้ามีมุมสำหรับนั่งเล่น ทานข้าว ประดับด้วยของตกแต่งแนวๆผู้ดีโบราณ ด้านหน้ามีต้นคูณที่จะออกดอกสีเหลืองตอนหน้าแล้งเข้ากับชื่อห้องลมแล้งวิลล่าพอดิบพอดี
หลังจากเห็นห้องครบ 3 ห้อง อยากจะกราบคุณแม่งามๆ 55555 ไม่น่าเชื่อว่าคนยุคก่อนจะมีความสามารถ Mix & Match ทุกๆอย่างให้ลงตัวได้ขนาดนี้ คุณแม่อั้มคือ Idolค่ะ สำหรับคนที่อยากมาพักแบบหรูหราที่นี่อาจไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าใครชอบอยู่สงบๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ อยากพักผ่อนแบบ Slow life ดื่มด่ำกับต้นไม้ ใบหญ้า และอาหารอร่อยๆ เราว่าที่นี่มีให้ครบ พูดถึงอาหาร ที่นี่ก็จะมีห้องอาหารสุพรรณิการ์ By คุณยาย เป็นครั้งแรกที่ได้ลองชิมอาหารของที่นี่ อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ชอบทุกจาน แต่ที่ติดใจสุดๆคือ หมูชะมวง รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เนื้อหมูนุ่มๆติดมันนิดๆ ใบชะมวงสุกกำลังดี ทานกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยมาก เห็ดทอดก็อร่อย ใครชอบเมนูทอดๆรับรองต้องติดใจจานนี้แน่ แป้งบางกรอบ จิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ด เอาเข้าปากแล้วแบบว่า ฮึ้มม อร่อย!!
เครื่องดื่ม เราสั่งเป็น Mojito ซึ่งมีส่วนผสมระหว่าง น้ำแตงโมสด, ใบมิ้นต์, มะนาว ดื่มเข้าไปแล้วสดชื่นเลย ไม่เปรี้ยวมาก รสชาติกำลังพอดี
อีกอย่างนึงคือ เปอริเอ้ น้ำผึ้ง มะนาว เมนูนี้สนุกตรงที่ได้ผสมเอง โดยการเริ่มเทน้ำผึ้ง น้ำมะนาว โซดา และน้ำแร่ธรรมชาติ100% Perrier เข้าไป คนให้เข้ากัน อร่อย สดชื่นเลย ส่วนของหวาน สั่งพานาค๊อตต้าชาไทยมาแบ่งกันกิน รสชาติเหมือนชาไม่มีผิด แต่เป็นเยลลี่ดึ๋งๆ ราดนมสดลงไป ตักเข้าปากเพลินเลย ชอบที่ไม่หวานจนเกินไป
เสร็จจากห้องอาหารก็มาดูบรรยากาศรอบๆกันมั่งว่ามีอะไร ชอบที่สุดก็คือ บ้านต้นไม้ นี่เป็นความฝันตั้งแต่เด็กเลยนะ ว่าอยากปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้ ขึ้นบันไดไปจะเจอที่ให้นั่งเล่นนอนเล่น มีบันไดให้ขึ้นต่ออีกชั้นนึง เริ่มยากละ แต่ก็ปีนนะ 555 อยากรู้ว่าอยู่ข้างบนจะเป็นไง จากด้านบนมองเห็นวิวข้างล่าง สวย เขียวขจีไปหมด ตอนปีนขึ้นก็ง่ายอยู่หรอก พอตอนลง แอบเรียกตาลให้มาช่วย กลัวตก ฮ่าๆๆ "ตาลเอากล้องไปที จับราวไม่ถนัด เดี๋ยวจะตกลงมาทั้งคนทั้งกล้อง"
ความเห็นส่วนตัว คิดว่าที่นี่มีเสน่ห์ตรงการตกแต่งแบบไทยๆผสมศิลปะของภาคอีสาน ของประดับต่างๆเข้ากันดีกับบรรยากาศและธรรมชาติรอบๆ ทุกอย่างดูมีคอนเซป และมีความกุ๊กกิ๊ก ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย สำหรับคนที่ไม่ได้มาพัก จะแวะมาทานข้าวเฉยๆแล้วดื่มด่ำกับบรรยากาศที่นี่ ถ่ายรูปเล่นกันเราว่าก็คุ้มแล้วนะ : )
เช้านี้ตื่นมา Surprise กับเซตอาหารเช้าที่อลังการงานสร้าง ประทับใจสุดๆ จำได้ว่าเดินไปถึงโต๊ะอาหาร แล้วตะลึงไป 3 วิ ทุกอย่างบนโต๊ะสวยงาม น่ากินทุกอย่างเลย ได้ใจไปเต็มๆ อะไรจะพิถีพิถันขนาดนี้ ปกติเป็นคนชอบทานข้าวต้มอยู่แล้ว เจอข้าวต้มกุ้งของที่นี่เข้าไป ลืมทุกอย่างที่ผ่านมา อร่อยมากแบบไม่ต้องปรุงอะไรเลย ผลไม้ก็จัดมาซะสวย ละมุดเย็นลี่อร่อย หวานชื่นใจ ดูภาพประกอบแล้วจะเข้าใจค่ะ : )
สิ่งที่สะดุดตาอีกอย่างของที่นี่ก็คือ โต๊ะไม้เก๋ๆที่ไว้สำหรับนั่งจิบชาโดยเฉพาะ พอมีโอกาสอั้มจึงนำเสนอวิธีชงชาและเล่าถึงประวัติความเป็นมาขอชาผู่เอ๋อ ชาชนิดนี้เป็นชาชั้นสูงในสังคมจีนไม่สามารถหาทานได้ทั่วไป ได้ชื่อว่าเป็นชาจักรพรรดิ์ การชงชาที่ถูกต้องน้ำแรกจะเอาไว้ล้างภาชนะ และเอาไว้เลี้ยงมังกร ฟังครั้งแรก งงมาก มังกรอะไร 555 ถ้าสังเกตุดีๆบนแท่นไม้รูปร่างแปลกๆนี้ จะมีรูปปั้นมังกรหินวางอยู่ แต่ละตัวมีรูปร่างและลักษณะต่างกัน ในความเชื่อของคนจีนโบราณรูปปั้นมังกรหินเปรียมได้กับลูกเทพ แต่ละตัวก็จะมีความหมาย เช่นมังกรหลังเป็นกระดองเต่า จะให้พรเรื่องอายุยืนเป็นต้น เวลาที่น้ำชาในถ้วยไม่ร้อนแล้ว คนจีนเค้าก็จะไม่ดื่ม แต่จะราดไปที่ตัวมังกรแทน อั้มก็ทำให้ดู เราไม่สามารถลูบที่ตัวรูปปั้นได้เพราะถือว่าท่านเป็นเทพ พวกเราจิบชาไปด้วย ฟังประวัติไปด้วยเพลินมากเลย ได้ความรู้ใหม่ด้วยว่ารินน้ำชาแต่ละครั้งรสชาติจะไม่เหมือนกัน รสชาติของชาจะอร่อยที่สุดอยู่ที่น้ำที่ 3 เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้จิบชาด้วยวิธีแบบจีนโบราณแท้ๆ รู้สึกตื่นตาตื่นใจและสนุกมาก
โซนด้านหลังของสุพรรณิการ์ มีสถานที่ไว้ปฏิบัติธรรมให้คนมาเดินจงกรมและนั่งสมาธิด้วย แค่เดินเข้าไปละแวกนั้นก็รู้สึกสงบเยือกเย็นแล้ว อาจจะเป็นเพราะต้นไม้ใหญ่เยอะ ป้ายคำสอนต่างๆที่ติดอยู่ตามต้นไม้ เตือนให้เรามีสติอยู่ทุกขณะ ตอนนั้นก็นึกอยู่ในใจว่า ถ้ามีโอกาสอยากจะมาปฏิบัติธรรมที่นี่ซักครั้ง
เราเชื่อว่าถ้าใครได้มีโอกาสแวะเวียนมาที่นี่ จะต้องหลงเสน่ห์ของบรรยากาศ ความร่มรื่น ความสุขสงบแบบเรียบง่าย ที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ นอกจากจะลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง ในความคิดเราที่นี่ก็เปรียบเสมือน Hidden Gems เพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ใครผ่านลองแวะเวียนมาสัมผัสกับธรรมชาติและความสุขเบาๆที่สุพรรณิการ์ได้นะคะ รายละเอียดและแผนที่ตามเวปไซต์ด้านล่างได้เลยค่ะ