top of page

CHIANGMAI 

ไม่ได้มาที่นี่แค่ปีเดียว ที่เชียงใหม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ มีที่พักน่ารักๆผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด คาเฟ่ ร้านอาหารเก๋ๆ ก็ไม่แพ้กัน ยังไม่นับสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติสวยๆที่เพิ่งเปิดใหม่อีก สรุปว่ามาเชียงใหม่ไม่เสียเที่ยวแน่นอน  

ที่เที่ยว

 

  1. แกรนด์แคนยอน

การเดินทาง

ใช้ถนนเลียบคันคลองชลประทาน (ทางเดียวกับไปพืชสวนโลกและไนท์ซาฟารี) ถึงแยกพืชสวนโลกให้ตรงไปอีก จะเจอสี่แยกไฟแดงหนองควาย ให้ตรงไปอีกประมาณ 4 กม. จะเจอสนามกอล์ฟหางดงด้านซ้ายมือ เลยจากสนามกอล์ฟประมาณ 300 เมตร จะเจอทางแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าทางโรงปูน PWS จะมีป้ายบอกทางประมาณ 300 เมตรก็จะถึง แกรนด์แคนยอน หางดง ถ้าใครไม่ได้ขับรถจะเหมารถแดงมาก็ได้

 

พอไปถึงแล้ว อันดับแรกจ่ายค่าเข้า 50 บาท เดินเข้าไป จะเห็นด้านซ้ายเป็นแผงร้านส้มตำ มองตรงไปก็เห็นแกรนแคนยอนแล้ว ที่นี่เป็นที่ยอดฮิตของชาวต่างชาติและคนไทยหลายๆคน บางคนก็มาเล่นกระโดดน้ำ บางคนก็มาถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน เราไปถึงเกือบๆเที่ยง แดดร้อนมาก แต่ด้วยความที่ตื่นเต้นเห็นที่แปลกใหม่ก็เลยถ่ายรูปสนุกลืมร้อนไปเลย อ้อลืมบอกไป บัตรค่าเข้าเอาไปแลกน้ำได้ฟรีแก้วนึงที่ร้านอาหารด้านขวานะ ถ้าไปถึงช่วงกลางวันขอแนะนำให้โบกครีมกันแดดไปเยอะๆเลย 

2. ผาช่อ

 

การเดินทาง

ไปผาช่อต้องเช่ารถหรือเหมารถไป เพราะไปลำบากพอสมควร อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 กิโล จากทางเข้าต้องขับเข้าไปในอุทยานอีก 5 กิโล พอถึงที่จอดรถแล้ว เราต้องเดินไปอีกพักใหญ่ๆเกือบ 20 นาที กว่าจะเห็นผาช่อของจริง หลายพันปีก่อนที่บริเวณนี้เป็นทางไหลของแม่น้ำปิงต่อมาแม่น้ำปิงได้เปลี่ยนทิศทางไป ทำให้ตะกอนเกิดการก่อตัวเป็นชั้นๆ ลวดลายของชั้นหินเลยออกมาเป็นผาช่อสวยงามอย่างที่เราเห็น

เราจะเห็นก้อนหินตามทางเดินเต็มไปหมด ทางเดินแคบๆพวกนี้เมื่อก่อนก็คงเป็นห้วยลำน้ำเล็กบ้างใหญ่บ้าง จินตนาการไปด้วยระหว่างเดินก็เพลินดีนะ เดินไปถึงผาช่อหอบแฮ่กเลย ตอนไปอากาศร้อนด้วยเลยเหนื่อยกว่าปกติ พกน้ำไปด้วยนะคะ ตอนที่พวกเราไปเดินลงไปตัวเปล่า ไม่ได้พกเสบียงอะไรเลยระหว่างเดินหิวน้ำมาก

 

3. บ้านข้างวัด

 

การเดินทาง

เข้าจากทางถนนรอบเมืองเชียงใหม่ จากแยกตลาดต้นพยอมเพียง 2 กม.ก่อนถึงโรงแรม B2 พรีเมี่ยม ก็เตรียมหาที่กลับรถได้เลย กลับรถแล้วสังเกตซ้ายมือจะมีป้ายเขียนว่า กิ่งไผ่แมนชั่น เข้าซอยแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางวัดร่ำเปิงก็จะเห็นโครงการอยู่ขวามือ

 

ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้มอลเล็กๆ ประกอบด้วยบ้านสไตล์พื้นเมืองครึ่งตึกครึ่งไม้ปูนเปลือยหลังเล็กๆตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน มีร้านเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งร้านอาหาร  ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายงานศิลปะ ขายผักผลไม้สดๆ ที่ชอบที่สุดคือลานขั้นบันได ที่ถูกใช้เป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะและแสดงดนตรี ตอนที่พวกเราไปที่นี่เป็นเช้าวันอาทิตย์  บรรยากาศชิว ผู้คนออกมานั่งเล่น จิบกาแฟ ฟังเพลง มีความสุขมากๆ

 

4. ถนนคนเดิน

 

มาเชียงใหม่แล้ว ต้องไม่พลาดถนนคนเดินเนอะ เค้าจะมีแค่วันเสาร์กับอาทิตย์ เป็นถนนยาวมาก มีร้านขายของเรียงรายอยู่สองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของที่ระลึก ของพื้นเมือง จริงๆก็ไม่ค่อยได้ซื้อของพวกนี้เท่าไหร่ แต่ชอบไปเดินดูบรรยากาศ ดูผู้คน ตอนที่ไปเป็นช่วงค่ำๆของวันอาทิตย์ บรรยากาศคึกคัก คนเยอะมากจริงๆ มีคนใส่ชุด predator มาเดินให้ถ่ายรูปด้วย สร้างสีสันให้คนเดินผ่านไปผ่านมาสะดุ้งตกใจไปตามๆกัน

 

ที่กิน

 

1. Ristr8to!

 

ที่ตั้ง: ปากซอย นิมมานเหมินท์ 3 ข้างร้าน โรตีกู

 

ที่เชียงใหม่ร้านกาแฟเยอะมาก ขอเริ่มจากร้านกาแฟชื่อดังที่เค้าร่ำลือกันก่อน ที่นี่เป็น

ร้านของคุณต๋อง บาริสต้าที่มีดีกรีเป็น แชมป์ Latte Art จากรายการ World Latte Art Championship 2011 และอยู่ในอันดับ 6 ของโลก ชอบร้านนะ ตกแต่งเหมือนเมืองนอกดี แล้วก็การใส่ใจในดีเทลเล็กๆน้อยๆ ไม่ว่าเป็นเป็นเมนู ที่รองแก้ว ทุกอย่างดูเท่ๆไปในทิศทางเดียวกัน

2. Cerebrum & Friends

 

ที่ตั้ง : ถนนสามล้าน ก่อนถึงประตูสวนปรุง

เวลาเปิด-ปิด : 08.00-23.00 หยุดวันพุธ

เบอร์โทร : 085-0379824

 

ชอบทุกอย่างตั้งแต่ก้าวเข้าไปในร้าน บรรยากาศมันใช่มากๆ ตกแต่งเก๋ ของประดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ กรอบรูป โคมไฟ ทุกชิ้นผสมผสานกันออกมาได้ลงตัว ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในคาเฟ่แถบยุโรป ด้วยความที่พวกเราเป็นอินทีเรียด้วยก็เลยชอบดูร้านที่ตกแต่งแบบนี้ นั่งเพลินเลย  สั่งช๊อคโกแลตเย็นกับบราวนี่มากิน อร่อยใช้ได้ แถมได้แรงบัลดาลใจดีๆมาเพียบ

3. Fabb coffee roasters

 

ที่ตั้ง: ถ้ามาจากเส้นนิมมานหรือเส้นสวนดอกให้ขับรถไปทางเส้นหลัง มช แล้วเลี้ยวตัดเข้าไปที่เส้นคันคลอง วิ่งรถเลาะคันคลองไปจนถึง ทางกลับรถตรง อบต สุเทพ ให้กลับรถตรงนั้นเลย พอกลับรถมาก็ให้ชิดซ้ายไว้เลยค่ะ ประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ฝั่งซ้ายมือเป็นโครงการนันทขว้าง เข้ามาในโครงการจะมีหลายร้านอยู่ในนี้เลย ตัวร้านจะอยู่ที่แยกแรกด้านขวามือ สามารถจอดรถได้ที่ด้านหน้าของร้าน

 

เรามาเจอที่นี่โดยบังเอิญ เพราะที่นี่อยู่ไม่ไกลจากที่พักที่ชื่อโอบอุ่น เดินข้ามถนนมาก็ถึง ที่ร้านนี้มีทั้งโซน In door และ Outdoor มีทั้งชา กาแฟ สมูตตี้ ขนมต่างๆให้เลือกเยอะแยะ ที่ชอบคือโซฟานั่งสบายมาก

4. ชีวิตชีวา

 

ที่ตั้ง: ถนน ศิริมังคลาจารย์ ซอย 7 (เข้าซอยกรรไกรทอง (ศิริมังคลาจารย์ ซอย 7) ไปราวๆ 20 เมตร ร้านจะอยู่ด้านขวามือตกแต่งเก๋ๆ มีทั้ง indoor และ outdoor 

 

จุดเด่นของร้านนี้คือ บิงซู น้ำแข็งใสสไตล์เกาหลี รสชาตินมๆ เกล็ดน้ำแข็งนิ่ม ละลายในปาก อร่อยดี เราเลือกอันที่เป็นมะม่วงเพราะตาลชอบ สั่งที่เดียวกินกันสองคนยังอิ่มเลย 

5. ร้าน Sandwich Bar

 

ที่ตั้ง: อารักษ์ ซอย 1 ศรีภูมิ เมืองเชียงใหม่

 

ที่นี่เป็นร้านเก่าแก่ อาหารไทยอร่อยมาก อารมณ์เหมือนร้าน Newlight ตรงสยาม ถ้าไปเชียงใหม่อีกรอบจะไปลองเมนูอื่น วันนั้นรีบเลยสั่งไปคนละจานเอง

 

6. ร้านซูชิโนริ Nori nakara okujou robata&izakaya บาร์ปิ้งย่าง

 

ที่ตั้ง: 5th Floor Rooftop  ถ.นิมมานเหมินทร์  ซอย 5 เดินเช้าซอย 5 มาไม่นาน ให้สังเกตุตึกสีเทาฝั่งซ้ายมือ มองหาป้าย Sushi Nori

 

ตอนนั้นพักอยู่ที่ บ้านเสลา ดันมาหิวตอน 3 ทุ่มเลยหาดูว่ามีร้านไหนเปิด โชคดีมาก เจอร้านนี้เดินไปแป๊ปเดียวก็ถึงละ ดึกแล้วคนยังเยอะอยู่เลย ร้านนี้ เป็นร้านกินดื่มแบบญี่ปุ่นที่มีอาหารปิ้งย่างตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้น5 สั่งปิ้งย่างมากินกับเบียร์ บรรยากาศดีมาก อากาศเย็นๆ นั่งคุยโน่นคุยนี่ จิบเบียร์เพลินๆ

7. ไอดินกลิ่นครก

 

ที่ตั้ง: ถนนนิมมานเหมินทร์ ปากซอย 11

 

บังเอิญว่าอยากกินส้มตำ แล้วไปเจอร้านนี้พอดี 5555 รสชาติอาหารอร่อยใช้ได้ ตกแต่งน่ารักดี ถ้าใครอยู่เชียงใหม่แล้วอยากกินส้มตำ มาร้านนี้ก็อร่อยดี ไม่ผิดหวังค่ะ

 

8. ทับทิมกรอบเจ๊อ้วน

 

ที่ตั้ง:  ถ..ศรีดอนไชย จากสี่แยกพันธุ์ทิพย์พลาซ่ามาทางแม่น้ำปิง อยู่ซ้ายมือใกล้ร้านเจี่ยท้งเฮง

 

ทับทิมกรอบที่นี่อร่อยมาก มันหอมๆ กรอบๆ บอกไม่ถูกรู้แต่ว่าเด็ด ตอนแรกสั่งผัดไทยไป ไม่อร่อยเท่าไหร่ รสชาติเฉยๆและแฉะไปหน่อย แต่ทับทิมกรอบนี่อร่อยจริงๆ แนะนำเลย 

ที่พัก กดที่รูปเพื่อดูรายละเอียดนะคะ

 

บ้านเสลา

โอบอุ่น

bottom of page