Foto Hotel Phuket
LOCATION : ตั้งอยู่บนภูเขาฝั่งหาดกะตะ ภูเก็ต สามารถไปได้หลายทางจากสนามบินภูเก็ต เช่น ให้จองรถจากสนามบินไปโรงแรม ราคาค่ารถจะอยู่ประมาณ 1,300บาท ถ้าไม่รีบแนะนำให้นั่งรถจากสนามบินไปลงที่เซ็นทรัลภูเก็ต และนั่งรถสองแถวไปลงที่หาดกะตะ พอถึงหาดก็มองหารถตุ๊กตุ๊ก เหมาขึ้นไปส่งบนเขา ประมาณครั้งละ 200 แต่จริงๆทางโรงแรมมีรถจัดส่งทั้งขึ้นทั้งลง ตลอดวัน อันนี้ต้องเช็คเวลานะ จะได้ไม่ต้องเสียตังค์
ส่วนตั๋วเครื่องบินถ้าอยากได้ตั๋วราคาถูกๆ ขอแนะนำว่าให้จองตั๋วเครื่องบินผ่าน traveloka.com ได้เลย ถูกกว่าจองเอง แถมยังมีราคาของหลายสายการบินให้เปรียบเทียบ อีกทั้งยังจองผ่านทางแอปได้ซึ่งราคาถูกกว่าหน้าเว็บ ที่ชอบที่สุดคือมีโปรโมชั่นสายการบินอื่นๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบคูปองส่วนลดหรือจะเป็นโปรโมชั่นบัตรเครดิต Traveloka ก็จะปล่อยโปรออกมาให้เลือกเกือบทุกอาทิตย์ ประหยัดทั้งเงินและเวลา ถูกใจมาก
โรงแรมสไตล์โมโนโทน ขาวเทาดำ โดยมีพี่หมีและกล้องเป็น gimmic พอเรามาถึงโรงแรมจะมีโซนนั่งเล่นเป็นโซฟาใหญ่ๆให้นั่งเล่น รอเช็คอินโดยที่จะมีพี่หมีตัวใหญ่ นั่งคอยต้อนรับอยู่ ถ้าไม่ถ่ายรูปกับพี่หมีตัวนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง พอมองไปด้านขวาเราจะเห็น Counter reception สีดำตั้งอยู่ ด้านหลังจะเป็นชั้นๆเหมือนชั้นหนังสือ มีกล้องสะสมและกล้องโบราณต่างๆวางโชว์ไว้รอบๆโซนนี้ ไว้ให้ผู้คนที่มาเยือนมาถ่ายรูปกับมุมต่างๆที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ มาทางด้านซ้ายมือจะเป็นเหมือน Net Center จะมีให้บริการ INTERNET พร้อม IMAC 2 เครื่องที่วางให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง การตกแต่งของที่นี้พูดได้เลยว่าลงตัวสมกับชื่อโรงแรมจริงๆ เพราะหันไปมุมไหนก็สามารถถ่ายภาพเก๋ๆได้ทั้งนั้น
คราวนี้ไปดูห้องพักกัน ห้องพักของเราเป็นแบบ Ocean View ยืนตรงระเบียงสามารถมองเห็นทะเล ฝั่งหาดกะตะได้เลย ภายในห้องตกแต่งแบบ Minimal มากๆ แถมในห้องยังเล่นระดับพื้นอีก คือ พอเราเดินเข้ามาก็จะเจอบันได เดินลงไปที่เตียงที่อยู่กลางห้อง เตียงที่นี้ใหญ่น่านอนเป็นที่สุด ด้านบนหัวเตียงก็จะเป็นเหมือนโต๊ะเขียนหนังสือมีที่สอดขาลงไป มีเครื่องคอนโทรลไฟของทั้งห้อง มีเครื่องเสียงให้เปิดเพลงได้ตามใจชอบ ทัดจากโต๊ะเขียนหนังสือพอมองไปทางซ้ายจะเจอราวแขวนเสื้อ ที่ทำจากสแตนเลสยื่นลงมาจากเพดาน เป็นการออกแบบที่ประหยัดพื้นที่ไม่ต้องมีตู้ให้เกะกะ แถบราวนี้ทำให้ห้องดูโล่งโปร่งไปอีก Functionการใช้งานภายในห้องถือว่าลงตัวมาก ตรงโซน Minibar ที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้สามารถทานได้ทั้งหมด ไม่คิดค่าใช้จ่าย ดีจริงๆเบยย ที่เก๋อีกอย่างนึ่งคือ ในแต่ละห้องแต่ละห้องจะมี Quote เก๋ๆ จากช่างภาพ มาประดับตรงผนังก่อนออกระเบียงกับด้านหลังกำแพงก็เป็น gimmic ที่ดี อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คนหันมาถ่ายภาพไม่มากก็น้อย
คราวนี้ถึงห้องน้ำบ้าง ห้องน้ำมีส่วนแห้งส่วนเปียกแยกกันชัดเจน โซนอาบน้ำผนังตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว
ลายเทา พร้อมโมเสคหินสีขาวลายเทา พร้อมช่องวางของ ห้องที่เราพักมีอ่างอาบน้ำอยู่ในห้อง บางห้องจะมีอ่าง อาบน้ำอยู่ที่ระเบียงสามารถแช่ไป ซึมซับบรรยกาศ วิวทะเล พระอาทิตย์ตกได้เลย สรุปชอบการตกแต่งและการ Design Layout ของที่นี่มาก รู้สึกสบาย relax ไม่เร่งรีบ ถ้ามีโอกาสต้องกลับไปอีกแน่นอน
มาถึงห้องอาหาร ตกแต่งด้วยอุปกรณ์ทำอาหารรวมถึงเครื่องปรุงต่างๆ เช่น ปิ่นโต กระป๋องชา ขวดซีอิ๋ว แก้ว เตาถ่าน ครก กล่องไม้ขีด กล่องซอส เป็นต้น หน้าตาจะออกวินเทจย้อนยุค แต่ดูกลมกลืนกันมาก อาหารเช้าที่นี้จะบริการถึงบ่าย 1 ซึ่งถือว่าไม่เหมือนที่อื่น เซ็ทอาหารเช้าจะมี ทั้งแบบ แบบที่มาเป็นเซ็ท มีหลายอย่างอยู่ในถาดที่เหมือนเข่ง จะเป็นเซ็ทอาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยวก็มี เซ็ทอาหารเช้าฝรั่งก็มีนะ จะเป็นพวกไข่ดาว ไส้กรอก ข้าวต้ม จะเลือกทานเซ็ทไหนก็แจ้งผนักงานได้เลย ชิมแล้วรสชาติดี อร่อยทุกอย่าง จากห้องอาหารสามารถมองออกไปเห็นวิวสระน้ำ ต่อด้วยวิวท้องฟ้าสีคราม สวย ได้บรรยากาศมาพักผ่อนตากอากาศมากๆ
ถึงเวลาออกไปสำรวจบริเวณสระน้ำ หินอ่อนสีขาวลายเทา ด้วยลักษณะของสระน้ำที่ทอดยาว ทำให้ดูเหมือนไม่มีรอยต่อระหว่างขอบน้ำกับท้องฟ้า โซนนี้เป็นอีกโซนที่ถ่ายรูปสวยแน่นอน พอเดินถัดไปส่วนระเบียงจะเป็นส่วน open air พื้นจะปูหญ้าเทียม มีเบาะใหญ่ๆวางไว้กระจ่ายตามที่ต่างๆ และยังมี เฟอร์นิเจอร์ Outdoor ที่มีเบาะและมีหลังคาสามารถปรับเปิด หรือปิดบังแดดได้ให้ได้นอนเอกขเนกกันได้ตลอดทั้งวัน ขอบอกว่าวิวพระอาทิตย์ตกดินตรงนี้สวยมากเพราะไม่มีอะไรมาบังวิวเลย ชิลสุดๆ ที่โรงแรมจะจัดที่ให้มีที่นั่งเอกขเนกได้รอบๆ ตามลานต่างๆ ตามข้างสระน้ำมีทุกที่ นอกจากนั้นรอบๆ โรงแรมจะประดับไปด้วย รูปภาพขาวดำตามผนังต่าง ภาพเรื่องราวของชีวิตผู้คน ประวัติความเป็นมา คือภาพรวมทั้งหมดทั้งดีไซน์ ฟั่งชั่นต่างๆ ตามมุมของทุกโซนสามารถใช้ถ่ายรูปได้ทั้งหมด รับรองใครมาเที่ยวที่นี่ต้องได้รูปภาพสวยๆกลับไปเพียบ นึกถึงที่ไรก็ยิ้มและอยากกลับไปทุกที