top of page

 

Day3  Hagiang -  Dong van

 

วันนี้เราตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปถ่ายรูปบรรยากาศที่พักตอนเช้า อากาศสดชื่นมากๆ ที่นี่ต้นไม้เยอะ ร่มรื่นไปหมด มองไปที่ใบบัวยังมีน้ำค้างเกาะอยู่เลย พวกเราเดินไปเล่นที่สะพานไม้ด้านหน้าทางเข้า เห็นฝูงเป็ดกำลังหาอาหารอยู่ในแม่น้ำ น้ำไม่เยอะมาก ดูๆแล้วน่าจะเดินได้ ก็เลยปีนลงไปเดินในแม่น้ำให้เท้าเปียกเล่น น้ำในแม่น้ำเย็นเจี๊ยบเลย สนุก แต่ต้องค่อยๆเดินเพราะตะไคร่เกาะที่หิน ถ้าเดินไม่ระวังหน้าอาจจะทิ่มได้ ชอบมากที่ได้ทำอะไรแบบนี้ มานั่งนึกดูแล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวานะ มีแค่ธรรมชาติ ธรรมดาๆ แต่เรารู้สึกว่าในความธรรมดานี้แหละที่มันมีเสน่ห์ในตัวของมัน  

อาหารเช้าที่นี่มีกาแฟ ขนมปัง ไข่ดาว ไข่เจียว ดูก็รู้ว่าทำอย่างปราณีต เสียอย่างเดียว คนที่นี่ไม่ค่อนกินซอส มีแต่เกลือกับพริกไทย แต่ก็อร่อยดีนะ ตอนนี้กินอะไรก็ได้ไม่เรื่องมาก

วันนี้เป้าหมายเราคือไป Dong van ที่นี่อยู่เหนือกว่าฮาซางอีก ใช้เวลาเดินทางขึ้นไป 4ชั่วโมง ยิ่งขึ้นตอนเหนืออากาศก็ยิ่งเย็น ที่แรกที่เราหยุดรถก็คือที่โรงเรียนท้องถิ่น ไกด์วางแผนให้เราได้เห็นบรรยากาศโรงเรียนจริงๆของที่นี่ เด็กๆเห็นพวกเราเดินเข้าไปก็มองกันตาแป๋ว พอเห็นกล้องเท่านั้นแหละ วิ่งมาให้ถ่ายรูปกันใหญ่ เวลาถ่ายรูปเด็กจะเพลินมาก ชอบแววตาและความใสของพวกเค้า 

 

หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อ วันนี้เส้นทางที่ไปจะลัดเลาะไปตามภูเขา เริ่มคดเคี้ยวเยอะ จนเราต้องกินยาแก้เมารถกันไว้เลย ไม่อยากเมารถ กลัวไม่สนุก วิวข้างทางก็ยังสวยอลังการเหมือนเดิม ถึงจุดไหนสวยๆ ไกด์ก็จะให้คนขับหยุดรถให้พวกเราได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก บางทีเห็นชาวบ้านจูงควายมาก็หยุดถ่าย บางที่สวยมากกก แต่จอดรถถ่ายรูปไม่ได้ เราก็ต้องบันทึกไว้ในความทรงจำแทน

 

เผลอแป๊ปเดียวก็บ่ายโมงละ ได้เวลากินข้าวกลางวันอีกแล้ว มื้อนี้อร่อยดีนะ เป็นร้านริมถนน อาหารก็จะมีไข่เจียว ผัดผัก ไก่ขมิ้นทอดกระเทียม แล้วก็มีเมนูหมูอีกอย่างน่าจะผัดกับขมิ้นเหมือนกัน กินแล้วมันหอมๆ คือมื้อนี้ก็ดี อร่อยทุกจาน ร้านอาหารทุกที่จะมีซีอิ้วขาว เราก็ใส่พริกกระเทียม หอมแดงและผักลงไป แทนพริกน้ำปลาได้เลย มื้อนี้ถูกปากอีกละ 

กินอิ่มปุ๊ปก็อารมณ์ดีปั๊ปเลย ระหว่างที่ไกด์และคนขับไปปาร์ตี้ไม่จิ้มฟัน เราก็ไปเดินเล่นดูโน่นนี่ เห็นคนขายร้านข้างๆกำลังทำเส้นเฝออยู่ เลยไปยืนดูกรรมวิธี เค้าทำคล่องและมืออาชีพมาก วิธีทำคล้ายๆกับข้าวเกรียบปากหม้อบ้านเรา แต่แผ่นใหญ่กว่ามาก

หลังจากเดินทางต่อซักพัก ก็จอดรถเล่นแวะถ่ายรูปข้างทางกัน ตรงจุดที่เรายืนมองไปทางไหนก็สวย ภูเขาที่ซ้อนๆกันอยู่ในสายหมอกทำให้ที่นี่ดูลึกลับ น่าค้นหา มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ

จุดหมายต่อไปของเราก็คือหมู่บ้าน Lungcam ที่นี่เป็นบ้านชาวบ้านจริงๆที่เค้าอนุญาติให้เราเข้าไปดูด้านในได้ ไกด์เล่าว่าชาวบ้านบางคนต้องทำงานหนักมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบาก นึกไปนึกมาก็จริงแบบที่เค้าว่า มาอยู่นี่สามวัน เห็นชาวบ้านผู้หญิงทำงานกันหนักมากแบกของเต็มหลังเลย เด็กๆก็เหมือนกันช่วยพ่อแม่ทำงานตลอด 

พอได้มาเห็นอะไรแบบนี้ ก็รู้สึกทุกครั้งว่าเรายังโชคดีกว่าคนอื่นเยอะ เราว่าการท่องเที่ยวมันก็คือการเรียนรู้ชีวิตอย่างหนึ่งนะ สังเกตุได้เลยว่าหลังจากที่เริ่มเที่ยวเยอะ และได้ไปเห็นโลกในมุมต่างๆ ทัศนคติและวิธีการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ หันมาใช้ชีวิตแบบง่ายๆ ทำงานตามหน้าที่ มีเวลาก็ท่องเที่ยวเพื่อไปเห็นโลกในมุมใหม่ๆ ชีวิตคงไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ มันเป็นความสุขแบบง่ายๆไม่ซับซ้อนดี  : )

 

ที่สุดท้ายที่เราไปวันนี้คือ Hmong Palace วันนี้ที่ๆไปจะออกแนวประวัติศาสตร์นิดนึง สนุกไปอีกแบบ ได้ไปเห็นสถาปัตยกรรมที่คนสมัยก่อนสร้างไว้ ไม้ที่พวกเค้าใช้แกะสลักเป็นรูปดอกฝิ่นผสมกับราวกันตกเหล็กสไตล์ฝรั่งเศส ดูสวยงามและปราณีตมาก การออกแบบลักษณะถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย โดยมีฝรั่งเศสเป็นผู้อนุญาตให้ก่อสร้างในช่วงเวลานั้น 

 

พอเดินดูเสร็จเรียบร้อย ก็ชักเริ่มหิว เราเห็นแม่ค้าขายขนมอะไรไม่รู้หน้าตาคล้ายๆแพนเค๊ก อยากลองกินอ่ะ อยากรู้แค่ว่ารสชาติจะเป็นยังไง พอเอาเข้าปากเคี้ยวคำแรก อื้อหืออ รู้สึกเหมือนเคี้ยวกระดาษเลย 55555 ให้สังเกตุหน้าตาลและหน้าพี่โจตอนเคี้ยวไปคำแรก สรุปคือไม่อร่อยนะคะ แต่ถ้าอยากลองกินดูสนุกๆ มาเวียดนามเห็นขนมหน้าตาแบบนี้จะลองชิมก็ไม่ว่ากันค่ะ ฮ่าๆ

หลังจากนั้นเราก็ไปถึงที่พัก ที่นี่ไม่มี Option ให้เลือกเยอะเพราะ Dong van เป็นเมืองเล็กๆ ห้องพักหน้าตาธรรมดาๆ ที่นอนไม่สกปรก ห้องน้ำสะอาดก็โอเคละ อาหารเย็นมื้อนี้กินข้าวผัดง่ายๆกับผัดผักที่ร้านข้างๆโรงแรม แอบเห็นหน้าร้านแขวนไก่เอาไว้ดูฮาร์ตคอมาก แล้วก็เห็นน้ำซุปอะไรสีแดงๆก็ไม่รู้อยู่ในถ้วย ไกด์บอกว่านี่เลือดเป็ด  ลองชิมมั๊ย อร่อยน๊า เหอะๆๆ เรารีบปฏิเสธแทบไม่ทัน หลังจากกินอิ่มก็ออกไปเดินเล่นชิวๆ ชมเมืองตอนกลางคืน ร้านรวงเริ่มปิด

กันหมดแล้ว เหลือแต่แสงไฟที่ประดับประดาตามต้นไม้  คืนนี้อากาศหนาวมาก เรานอนกันแบบไม่เปิดแอร์ หลับสบายทั้งคืนเลย

 

bottom of page