top of page

FILLETS Bangkok

โอมากาเสะะ!! อยู่ดีๆก็มีความอยากกินหนักมาก หาในกูเกิ้ลเจอร้านน่าสนใจเยอะแยะเต็มไปหมด แต่มีร้านนึงเห็นคนรู้จักไปกันบ่อยๆ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องโอมากาเสะแบบพรีเมี่ยม มีโอกาสก็เลยอยากมาลองลิ้มรสด้วยตัวเองซักที เสน่ห์ของโอมากาเสะคือเราไม่ต้องเลือกเมนูเลย เชฟจะจัดให้เองตามวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่มีในวันนั้น มันสนุกตรงที่ได้ลุ้นว่าเชฟจะทำอะไรให้และรสชาติจะอร่อยแค่ไหน : ))

 

ร้านนี้ชื่อว่า Fillets เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบร่วมสมัยสไตล์ Modern Japanese เข้าไปในร้านจะเจอกับบรรยากาศสบายๆ ตกแต่งเหมือนบ้านญี่ปุ่นโบราณแต่เต็มไปด้วยความทันสมัย มีทั้งมุมที่นั่งโต๊ะเตี้ยแบบญี่ปุ่นแท้ๆ โต๊ะทรงสูงแบบตะวันตก และบาร์เครื่องดื่ม น่าแปลกที่พอทุกอย่างมาอยู่รวมกันแล้วไม่รู้สึกว่าขัดตาแต่กลับรู้สึกว่าเข้ากันได้แบบลงตัวสุดๆ หลังจากที่กินโอมากาเสะกับเชฟแรนดี้จนจบคอร์ส 17 อย่างแล้ว ขอพูดสั้นๆว่า มันเลิศมาก!!

 

สิ่งที่ประทับใจก็คือ

1. ความปราณีตของเชฟ ชอบที่เชฟแรนดี้ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น เสิร์ฟไล่จากปลารสอ่อนไปยังรสเข้ม ค่อยๆบรรจงปรุงรสของแต่ละคำ เวลากดข้าวก็เปลี่ยนแรงตามชนิดของวัตถุดิบด้วย ทำให้สัดส่วนปลากับข้าวออกมาพอดิบพอดี การเสิร์ฟสลับระหว่างซูชิกับเมนูอื่นทำให้รู้สึกว่าคอร์สนี้ไม่น่าเบื่อและไม่อิ่มเร็วจนเกินไป ค่อยๆดื่มด่ำแต่ละคำแบบเต็มที่

2. ความสร้างสรรค์ของเมนู อันนี้ต้องยอมรับเลยว่าประทับใจมาก ได้ยินมานานว่าเชฟคนนี้เก่งในเรื่องครีเอทเมนูเก๋ๆให้ออกมาสมดุลและอร่อยกลมกล่อม พอได้ชิมแล้วก็เข้าใจเลย อย่างคำที่เป็นกุ้งลายเสือญี่ปุ่น เนื้อแบบสด หวาน นุ่มพอดิบพอดีด้านล่างเป็นมันกุ้งสองชนิดผสมกัน พูดเลยว่าโดนคำนี้เข้าไปฝันหวานเลย คำที่เป็นหูฉลามทอดก็แปลกและอร่อยมาก นุ่มๆ เค็มๆ กรอบเบาๆ เชฟเล่นกับวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสได้ดีมากจริงๆ

3. ใช้เครื่องปรุงและวัตถุดิบที่คัดมาอย่างดี เอาเข้าปากแล้วรู้เลย เพราะทุกคำมีความสดแบบมากๆ ฟินไปหลายตลบ อูนิเนื้อนุ่มละลายในปาก รสชาติคลีนแบบผู้ดี อร่อยมากๆ วาซาบิก็ใช้ของแท้ เผ็ดหอมกำลังดีไม่ฉุนขึ้นจมูก ข้าวซูชิรสชาติอร่อย เม็ดข้าวไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป ไข่หวานของที่นี่ก็เทพมากสมคำร่ำลือว่า หอม นุ่ม ละลายในปาก ตอนนี้มีแบบสั่งกลับบ้านด้วยน๊า อยากกินก็สั่งได้

 

โดยรวมแล้วประทับใจร้านนี้มากๆเลย ติดนิดเดียวตรงที่เก้าอี้ในห้องโอมากาเสะนั่งแล้วแอบไหลนิดหน่อย 55555 ที่เหลือคือดีงามแบบไม่รู้จะติอะไร ราคาคอร์สนี้ 6พัน++ ต่อคนถือว่าคุ้มสำหรับการมาเสพพรสวรรค์ ได้มาลิ้มรสฝีมือของเชฟ ด้วยรสชาติและวัตถุดิบที่พรีเมี่ยมแบบนี้ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา : ) ไปดูในอัลบัมกันว่าแต่ละคำที่ฟินๆมีอะไรมั่ง

การตกแต่งในร้านมีความผสมผสานทั้งญี่ปุ่นและตะวันตก ส่วนมุมโอมากาเสะมีทั้งด้านนอก หรือจะป็นห้องก็มีค่ะ

ก่อนจะเริ่มเชฟก็จะหยิบอาวุธมาวางเรียงแบบนี้ เป็นมีดแล่ปลาที่คมมากกก

- เมนูแรก เริ่มจากซาชิมิปลาฮิราเมะ หรือปลาตาเดียว เป็นปลาเนื้อขาว รสชาติอ่อนๆ เชฟแนะนำว่าไม่ควรกินกับโชยุ เพราะทำให้รสจาง กินกับวาซาบิ บีบมะนาว แตะเกลือนิดหน่อยจะกำลังดี ชิ้นเล็กคือครีบปลาตาเดียว กรึบๆมันๆ อร่อยมาก เริ่มคำแรกแบบเบาๆ

- เมนูที่2 ซาชิมิปลาคินเมะได จิ้มกับสาเกผสมบ๊วยดอง รสชาติพอดิบพอดี ละมุน ไม่มีกลิ่นคาวเลย น้ำจิ้มอร่อยมากๆๆๆ กลมกล่อมดีจริงๆ

- เมนูที่3 Shiro ebi กุ้งขาว ที่โรยข้างบนคือไข่ปลาตากแห้ง เค็มๆ มันๆ ผสมกับเนื้อสดๆของกุ้ง ดึ๋งๆ รสชาติทั้งหมดกลมกล่อมเข้ากันได้ดีทั้งความเค็มกับความสดหวานของกุ้ง แป๊ปเดียวหมดจาน

- เมนูที่ 4 Uni เป็นอูนิที่แช่ในน้ำทะเลจากแหล่งที่มา ทำให้มีความสดมากที่สุด รสขาติผู้ดีที่สุดที่เคยกินมา หอมอ่อนๆ ไม่คาว รสชาติใกล้ความดั้งเดิมมากๆ

 

ตอนที่กินอูนิอยู่เห็นเชฟเอาปลาเนื้อแดงมาแช่แล้วก็จับเวลาจากนาฬิกาทราย

ชอบรอยสักที่แขนเชฟแรนดี้มาก เห็นแล้วเจริญอาหาร มีแต่กุ้ง หอย ปู ปลา 5555

- เมนูที่5 Ishigakidai อิชิกาคิได คำนี้เป็นปลาเนื้อขาว ข้าวผสมchivesหรือต้นหอมอ่อน เนื้อปลาไม่นุ่มมาก มีความกรุบๆ ข้าวหมักเปรี้ยวอ่อนๆกำลังดี รสชาติเข้ากับเนื้อปลา ไม่แฉะ

- เมนูที่6 หูฉลามทอด นุ่ม เค็มๆ กรอบเบาๆ เคี้ยวแล้วรุ้สึกถึง texture ของหูฉลาม ฟินมากกก ชอบคำนี้ แปลกใหม่ดี

- เมนูที่ 7 มาได ในข้าวจะผสมใบชิโสะ คล้ายๆใบมินต์ โรยดอกเกลือด้านบนและมีมะนาวฝานชิ้นเล็กๆวางไว้ ความเค็มของเกลือ กับความเปรี้ยวนิดๆของมะนาว ทำให้รู้สึกสดชื่น เนื้อปลานุ่ม ข้าวเปรี้ยวอ่อนๆ ผสมกับทุกอย่างแล้วลงตัว

- เเมนูที่ 8 ทูน่าแช่โชยุ สาเก มิริน ส่วนred meat หรือส่วนที่ลีนที่สุด อร่อย เนื้อนุ่มกำลังดี

- เมนูที่ 9 กุ้งลายเสือญี่ปุ่น ข้างล่างเป็นมันกุ้งสองชนิดผสมกัน ส่วนหัวหางของกุ้งเอามาทำซุป เชฟบอกว่าถ้าต้มกุ้งเกินเวลานิดเดียว เนื้อจะเป็นคนละเรื่องเลย จะไม่นุ่มอร่อยแบบนี้ กุ้งนุ่มมาก เต็มปากเต็มคำ และมันกุ้งข้างใต้ก็อร่อยมากๆๆ อยากบอกเชฟว่าขอแบบนี้อีกซัก 3 คำได้มั๊ยคะ

- เมนูที่ 10 อาคามัตสึ akamutsu ย่างถ่าน ปลานี้เป็นปลาน้ำลึกที่อาศัยอยู่ในน้ำเย็น เลี้ยงไม่ได้และหายากมาก เนื้อปลาจะเด้ง มัน มีหัวไชเท้าขูดกับต้นหอมอ่อนวางข้างบน คำนี้อุ่นอร่อย และได้กลิ่นหอมของถ่านด้วย

- เมนูที่ 11 คำนี้เป็นชูโทโร่ ส่วนที่มีมันปานกลาง นุ่มอร่อย พอดีคำมากๆ

มองเชฟทำเพลินๆ

- เมนูที่ 12 ปลาหน้าวัว ข้าวคลุกตับปลา โรยงาขี้ม่อน ตับปลามาขูดทำเป็นซอสแล้วคลุกผสม เมนูนี้เด่นที่รสงา กรุบๆ เนื้อปลาสดนิ่ม มีความมันนิดๆ ตักแป๊ปเดียว อ้าวหมดจานซะแล้ว

- เมนูที่ 13 หอยตลับตัวใหญ่มากกกก ทุกทีกินแต่ผัดฉ่า 555 แต่คำนี้พูดเลยว่าคลาสสิคมากกก หอยสด นิ่ม หอมซอส มีเม็ดพริกไทยดองญี่ปุ่นข้างใน ทำให้เคี้ยวแล้วมีหลากรส อร่อยจริงๆ

- เมนูที่ 14 อูนิอีกแล้ว ครั้งนี้มาบนข้าว อร่อยเว่ออออ สาหร่ายจะกรอบๆ ข้าวใส่มาไม่เยอะ แต่เน้นอูนิเต็มๆ สดมาก ไม่คาว คำนี้ต้องรีบกิน ถ้าช้าสาหร่ายจะไม่กรอบนะ เชฟบอกตอนที่เห็นเรามัวแต่ถ่ายรูป พอได้ยินก็รีบวางกล้องแล้วหยิบเข้าปากทันที

คำต่อไปไม่ธรรมดา มีการย่างถ่านด้วย เขียวๆนั่นคือสาหร่ายพวงองุ่น

- เมนูที่ 15 โอโทโร่ ส่วนที่มันที่สุดกับสาหร่ายพวงองุ่นห่อสาหร่าย ขั้นตอนแรกเชฟจะทาบถ่านไว้ด้านบนให้ปลาอุ่นๆ เอาทุกอย่างมาห่อสาหร่ายกรอบๆ บีบมะนาวนิดหน่อย เนื้อนุ่มสุด มีกลิ่นหอมถ่านเบาๆ อุ่นๆ กัดเข้าไปความกรุบของเม็ดสาหร่ายผสมกับความละมุนของเนื้อโอโทโร่ติดมัน หื้มมมม ฟินนนน มาถึงตอนนี้ก็เริ่มจะอิ่มนิดนึงละ อิ่มท้องไม่เท่าไหร่อิ่มความสุขมากกว่า!

- เมนูที่ 16 ไข่หวานที่เค้าลือกัน เป็นอย่างนี้นี่เอง เชฟหั่นให้มาคำใหญ่มาก ตรงขอบจะเค็มนิดๆ เนื้อตรงกลางฟูๆ ทั้งหอมทั้งนุ่ม เอาเข้าปากปุ๊ปละลายเลย เทพมาก เป็นไข่หวานแบบผู้ดี 555

- เมนูที่ 17 เป็นอันสุดท้ายละ ซุปมิโสะอุ่นๆ รสชาติเก๋ แตกต่าง ไม่เหมือนมิโสะซุปทั่วไป มีใส่ผิวมะนาวลงไปด้วยทำให้หอม กลมกล่อมมากๆ

โฉมหน้าเชฟแรนดี้ : )

บรรยากาศในร้านดีงามมากชอบ

ใครอยากจะไปลิ้มลองความอร่อยก็โทรไปจองก่อนนะคะ เพราะที่นั่งโอมากะเสะรับแค่วันละ 6 คนเท่านั้น!

 

Address : ร้านอยู่ชั้น3 ตึก Portico แถวหลังสวนค่ะ
TEL : 092-879-6882
www.filletsbangkok.com

bottom of page