HOSHINOYA TOKYO
พูดได้ว่าที่ HOSHINOYA Tokyo เป็นอีกหนึ่งที่พักในฝัน ที่เล็งไว้นานมากแล้วว่าซักครั้งจะต้องมาพักที่นี่ให้ได้ แล้ววันนี้ฝันก็เป็นจริงซักที เป็นฝันดีเกินคาดด้วย เพราะไม่ได้มาตัวคนเดียว แต่พาพ่อกับแม่มานอนข้างๆด้วยกัน 55555 การที่ได้พาพ่อแม่มาเที่ยว นอนพักเรียวกังสวยๆใจกลางโตเกียว ได้กินอาหารอร่อยๆ นับเป็นช่วงเวลาที่ดี และเป็นการเติมเต็มให้ทริปนี้ลงตัวและเต็มไปด้วยความสุข
HOSHINOYA Tokyo has always been one of dream hotels on my wish list.
Finally, it was more than just a dream came true because I got to share this wonderful experience with my parents. Spending time with them, staying in five-stars traditional ryokan, having great meals, and doing things together, these are surely one of the best moments of my life.
ป่ะ! เรามารู้จัก HOSHINOYA TOKYO ให้มากขึ้นกันดีกว่า ก่อนจะลงรายละเอียดในอัลบัม เราจะสรุปคร่าวๆถึงข้อดีของที่นี่ก่อน ว่าที่นี่ดียังไงมั่ง และทำไมถึงเป็นที่ในฝัน
1. โรงแรมสวยมากและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นญี่ปุ่น - ที่นี่จะไม่เหมือนโรงแรมทั่วไป ภายนอกเป็นตึกดูสวยทันสมัยแต่แค่ก้าวพ้นประตูเข้าไปเราก็จะเจอกับบรรยากาศแบบบ้านญี่ปุ่นสมัยโบราณ ทั้งการตกแต่ง เสียงเพลงบรรเลง และการต้อนรับของพนักงานจะทำให้เรารู้สึกเหมือนหลุดมาอีกโลกนึงเลย
Before we go into details, here are short reasons why I love HOSHINOYA Tokyo. This Ryokan is beautifully designed and combines modernity and tradition perfectly. From the outside, the black modern building stands out among office buildings in the area. Once stepped into the hotel, we were stunned by the interior design, a simple but luxury traditional ryokan, plus, serene background music, and the hospitality of the staffs made us feel like we were teleported to another world.
2. ห้องนอนแบบเรียวกังดีงามมาก ตกแต่งสวย พื้นที่กว้าง - เราเลือกนอนห้องแบบที่นอนได้ 3 คนพ่อแม่ลูก เปิดประตูเข้ามาก็ต้องตกตะลึงกับความกว้างของห้อง ไม่คิดว่าห้องพักในญี่ปุ่นจะใหญ่ได้เท่านี้ มองจากสายตาแล้วน่าจะตีแบตกันได้สบายๆ 5555 ของทุกอย่างในห้องเป็นอุปกรณ์ชั้นดี เนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้ว
The room is gorgeous and so spacious that I think we can actually play badminton in it! LOL! It was spotlessly clean and also the amenities were all top notch.
3. อาหารอร่อยจัดมาให้อย่างปราณีต - อาหารเช้าจะมีพนักงานมาเสิร์ฟในห้อง หืมมม อร่อยมาก ต้องไปดูในรูปแล้วจะเห็นว่าเค้าประณีตแค่ไหน พาพ่อแม่ทานอาหารเย็นของโรงแรมมื้อนึง ฟินไปหลายตลบ เป็นการทานอาหารที่ได้ทั้งความอร่อย เพลิดเพลินทั้งรสชาติของอาหารและศิลปะในการจัดจาน
Food is excellent and exquisitely presented. The breakfast is served every morning in room. See photos in album you’ll see how delicately served the food was. We also had dinner once at their restaurant and it was an unforgettable experience.
4. มีบ่อออนเซนธรรมชาติให้แช่ด้วย - พ่อกับแม่ไม่เคยแช่ออนเซนมาก่อนเลย คิดไว้แล้วว่าทริปญี่ปุ่นครั้งนี้จะหาที่พักที่มีออนเซน หลังจากเดินเหนื่อยมาทั้งวันก็จะได้แช่ออนเซนให้สบายตัวหายเมื่อย คิดถูกจริงๆเพราะเป็นอะไรที่ถูกใจผู้ใหญ่มาก แช่เสร็จแล้วเนื้อตัวตัวเบา สบาย หายเมื่อยเป็นปลิดทิ้ง
One of the reasons why I wanted my parents to stay here is because I wanted them to experience onsen bath. Gazing up at the sky while sitting peacefully in an onsen after a long day, is a true relaxation.
5. พนักงานน่ารักทุกคน - อย่างที่รู้กันว่าคนญี่ปุ่นน่ารักและนอบน้อมมาก ที่นี่ก็เช่นกัน พนักงานยิ้มแย้มพร้อมให้ความช่วยเหลือแขกที่มาพักตลอดเวลา เป็นความประทับใจที่นึกถึงแล้วก็ยังยิ้มได้ทุกครั้ง
The staffs were amazingly sweet and attentive.
เอาเป็นว่าช่วงเวลา 3 คืนที่ได้นอนพักที่นี่ ได้ทั้งประสบการณ์ที่ดีและมีความสุขมากๆ ที่ดีใจที่สุดก็คือคนที่แชร์ความสุขและความทรงจำกับเราก็คือพ่อกับแม่ คนที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก : )
All I can say is it was an incredible experience and priceless memories were made here at HOSHINOYA Tokyo.
มาดูในเรียวกังกันบ้างดีกว่า พอเข้าประตูมาเราก็จะเจอกับโถงทางเข้าสวยๆแบบนี้ ฉากด้านหลังก็จะเปลี่ยนทุกๆเดือน ช่วงนี้กำลังจะเข้าหน้าฝนก็เลยเป็นร่มสวยๆกับดอกไฮเดรนเยียสีหวาน และมีต้นข้าวเล็กๆให้รู้ว่าเป็นฤดูปลูกข้าวด้วย น่ารักและใส่ใจในรายละเอียดมากๆเลย แขกที่มาทุกคนจะต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าไปยังห้องพัก พนักงานก็จะเก็บรองเท้าเราไว้ในช่องไม้ด้านข้าง การได้เดินเท้าเปล่าทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่บ้านเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ทำให้การเข้าพักมีความสบายๆและเป็นกันเอง
Now let's go into more details. The entrance of the hotel is minimalistic, modern and beautiful. The seasonal flower display was decorated with sweet Hydrangeas, rice, and umbrellas reflected rainy season.
Here, guests were requested to remove their shoes, and the staffs then stored them in bamboo lockers. Walking around the Ryokan barefoot makes the whole place feel like home.
โถงทางเดินและในห้องพักที่นี่ไฟจะสลัวๆหน่อย ไม่ได้สว่างจ้า แล้วก็มีเพลงญี่ปุ่นบรรเลงคลอเบาๆ บรรยากาศจะกล่อมให้เราเหมือนอยู่บ้านคนญี่ปุ่นสมัยโบราณ
Walking through a warm, cozy foyer with zen music in the background gives us a sense of luxury and welcoming.
เปิดเข้าไปในห้องนอนครั้งแรก ตกใจกับความกว้าง ตอนจองมาไม่คิดว่าห้องที่นอนสามคนจะกว้างขวางได้ขนาดนี้ ในห้องมีทั้งมุมโต๊ะทำงาน มุมทานข้าว มุมนั่งดูทีวี มุมแขวนเสื้อผ้าแยกเป็น Walkin Closet มีห้องน้ำใหญ่ๆ มีอ่างให้นอนแช่ อุปกรณ์ทุกอย่างก็มีให้พร้อม มีให้แม้กระทั่งผงสปาไว้ใส่น้ำตอนนอนแช่ตัว เลิศและใส่ใจที่สุด อุปกรณ์ทุกอย่างทันสมัยและเนี๊ยบมากจริงๆ
The room is surprisingly spacious, featuring working desk, living area, walk-in closet, and immense bathroom with massive bathtub. High-end amenities are fully equipped.
อย่างในห้องน้ำนะ แค่ก้าวขาเข้าไปฝาชักโครกก็เปิดให้เองอัตโนมัติละ ทีวีก็ไม่ได้เป็นแบบทีวีปกติ แค่กดรีโมทตรงกระจกก็มีภาพขึ้นมากลายเป็นทีวีให้เฉยเลย รู้สึกประทับใจกับความทันสมัย
The toilet censor is very sensitive; the seat goes up when you just open the door. A TV, disguised seamlessly as a mirror, turned on at a touch of a button.
ในแต่ละชั้นก็จะมี Lounge ส่วนกลางให้นั่งเล่น ตรงนี้ก็จะมีชา กาแฟ ขนมต่างๆวางไว้ให้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถมาทานได้ตลอด ขนมอร่อยมาก มาม่าก็มีให้นะ เผื่อใครหิวตอนกลางคืนก็มาต้มกินได้ 5555
Each floor features a lounge stocked with complimentary snacks and drinks etc.
เตียงนอนที่นี่เป็นแบบญี่ปุ่น แค่เอาตัวเข้าไปในผ้าห่มก็รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก หลับสบายทั้งคืนเลย ตื่นมาก็เพลิดเพลินกับการมองแสงเงาในห้อง ด้านนอกหน้าต่างเป็นเหล็กที่ดัดเป็นลวดลายญี่ปุ่นสวยงาม พอแดดส่องก็จะเห็นเป็นเงาตรงหน้าต่าง เก๋มากเลย แต่สำหรับใครที่อยากนอนตื่นสายๆ ไม่อยากให้มีแสงรบกวนเค้าก็จะมีปุ่มให้กดแล้วจะมีม่านอัตโนมัติอีกชั้นปิดไม่ไห้แสงเข้ามาในห้องได้ ชื่นชมคนออกแบบมาก เก่งมากๆเลย วางแผนทุกอย่างมาอย่างดี
Futon mattresses are amazingly comfortable we didn’t want to get up. In the morning, natural light came through the building’s facade creating beautiful shadows on the paper screen. If you want to get up late or get some rest during the day, blackout blinds can be activated with a remote control.
ถึงเวลาก็มีอาหารเช้ามาเสิร์ฟที่ห้อง เค้าจะถามไว้ก่อนว่าเราอยากได้เซตอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นหรือฝรั่ง มาเต็มโต๊ะเลยค่า เซตญี่ปุ่นอร่อยมากกกกก ก ก อาจเป็นเพราะชอบอาหารญี่ปุ่นด้วยแหละ งื้ออ ฟินแต่เช้า
Breakfast is served in room. You’ll have the option of having either a Japanese or Western breakfast. My choice was Japanese and it was soooo delicious.
ห้องที่เรานอนเป็นห้องใหญ่ที่สุด ถามเค้าว่าอยากรู้จังว่าห้องแบบอื่นหน้าตาเป็นยังไง จะได้มีไอเดียเผื่อครั้งหน้ามาพักกันแค่สองคน เค้าก็เลยพาไปดู ห้องอื่นก็สวยนะ คลาสสิค เรียบๆ แต่ดูดี มีความผสมผสานของวัฒนธรรมญี่ปุ่นและความทันสมัยเข้าด้วยกันแบบลงตัวเลยแหละ
The room where we stayed is the largest. There’re 2 other room types which are also spacious and nicely decorated.
Hi light ของที่นี่ก็คือออนเซ็นค่าา อยู่ใจกลางโตเกียวแล้วได้นอนแช่ออนเซ็นแท้ๆคือดีมาก พ่อกับแม่ชอบมากกก เดินเมื่อยๆมาทั้งวันแช่แล้วได้ลงไปแช่ ตัวเบาเลยอะ พนักงานบอกว่าออนเซ็นที่นี่ขุดจากใต้ดินตรงนี้เลย ลึึกไปตั้ง 1500เมตร ตั้งแต่โตมานี่ก็เป็นครั้งแรกที่โป๊กับแม่ 55555 ตลกจัง แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี : )
The highlight here is the rooftop onsen where hot springs water flow from 1500m. beneath the Ryokan. My parents totally loved it.
P.S. I must say it was my first time being naked with my mom, lol. It was funny but also a good experience.
อาหารเย็น
อ่านเจอมาว่าอาหารเย็นที่นี่เด็ด เลยคิดว่าไม่ควรพลาดต้องจัดซักมื้อ พักที่สวยๆแล้วทานอาหารอร่อยๆเป็นของคู่กัน ;) การตกแต่งร้านอาหารของเค้าเรียบง่ายมาก ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้ไม่มีอะไรมาดึงดูดความสนใจ อยากให้เราสนใจแต่อาหารอย่างเดียว 5555 ก็เป็นไอเดียที่ดีนะ
I did some research and found that dinner here is highly recommended so we didn’t want to miss it!
The design of the restaurant is simple and minimal. Reason being guests will indulge themselves with the exquisite dinner. What a great idea!
ไม่มีคำอธิบายได้ๆจะเหมาะเท่ากับคำว่า อร่อย เลิศ ฟินทุกเมนู ทุกจานที่เชฟจัดให้พอตักเข้าปาก มองหน้ากันแล้วก็หุบยิ้มไม่ได้ รสชาติกลมกล่อมมากๆเลย รู้สึกได้ถึงความพิถีพิถันชองเชฟ พยายามหาข้อติอยู่ยังหาไม่เจอจริงๆ ทุกอย่างเฟอร์เฟคมาก
Every dish was stunningly delicious, we couldn’t stop smiling.
ที่นี่เค้าจะมีการแสดงโชว์สนุกๆให้ดูด้วยนะคะ อันนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร แขกที่มาพักก็สามารถมานั่งดูได้เลย สามารถเช็คเวลากับโชว์ได้ที่ Reception
A Japanese juggling performance at Sake Lounge.
นอกจากโชว์แล้วก็จะมีกิจกรรมน่ารักๆ อย่างพิธีชงชา แต่อันนี้ต้องเสียเงินเพิ่ม เราอยากให้พ่อกับแม่ได้อินกับความเป็นญี่ปุ่นแบบเต็มที่ ก็เลยให้เค้าสองคนเรียนชงชาดู นักเรียนสองคนนี้ตั้งใจเรียนกันน่าดูเลย 55555
There’re also paid activities like Japanese tea ceremony, for example, which I booked for my parents.
How concentrated they were :)
บรรยากาศด้านหน้าเรียวกังตอนกลางคืนก็จะประมาณนี้ HOSHINOYA คือตึกตรงกลาง ดูทันสมัยต่างจากข้างในที่เป็นสไตล์เรียวกังเลย ด้านหน้าทางเข้าก็จะมีสวนเล็กๆแล้วก็มีที่นั่งให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ คนนอกที่ไม่ได้พักที่นี่ก็มานั่งเล่นได้ เนื่องจากแถวนี้เป็นใจกลางเมืองย่านธุรกิจ ตึกออฟฟิศก็จะเยอะแยะไปหมด ร้านอาหารก็เลยเยอะตามไปด้วย วันธรรมดาร้านอาหารก็จะเปิดถึงดึก เดินเลือกกันได้สบายเลย เซเว่นก็มี ที่สำคัญโรงแรมอยู่เชื่อมกับรถใต้ดิน เดินทางสะดวกมากๆ ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากลองประสบการณ์ฟินๆแบบนี้ ลองมาพักที่ HOSHINOYA Tokyo ดูนะคะ
The Ryokan at night: HOSHINOYA Tokyo is the building in the middle which looks very modern from the outside.
There’s a small green space outside the Ryokan.
Surrounded by office towers in the business area, the location is very convenient. The Ryokan is directly connected to a subway. Many restaurants nearby are open till late.
โดยรวมอยู่ที่นี่สามคืนก็มีความสุขแบบมากๆทุกคืน เงินที่เสียไปแลกกับความสุขของพ่อแม่และความทรงจำดีๆที่มีร่วมกัน มันก็คุ้มค่าสำหรับเราละ ใครสนใจจะมาพักที่นี่ ดูรายละเอียดได้ที่ www.hoshinoya.com นะคะ
The happiness and memorable experiences we had during the stay here were absolutely worth the price.If you need more info go to www.hoshinoya.com