top of page

DAY4  Dong Van

 

วันนี้ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า อากาศสดชื่นและหนาวมากกว่าเมื่อคืนอีก หนาวจนต้องหยิบเสื้อแขนยาวมาใส่ ไกด์บอกว่าแถวๆโรงแรมจะมีตลาดเปิดแต่เช้า เวลาเที่ยวชอบไปดูตลาด เพราะเราว่าตลาดคือสถานที่ๆจะได้เห็นวิถีชีวิตคนท้องถิ่นชัดเจน พอเดินไปถึงชาวบ้านก็กำลังทยอยกันตั้งแผงขายของขายผัก ผลไม้ แล้วก็มีไก่อยู่ในกรง เราเดินเล่นดูบรรยากาศรอบๆโรงแรมซักพักแล้วก็ถึงเวลาอาหารเช้า

ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ มันช่างเข้ากับอากาศหนาวได้ดีจริงๆเลย หลังจากกินอิ่ม ก็คุยเล่น ถ่ายรูปเล่นกันหน้าโรงแรมแป๊ปนึง ก็ถึงเวลาออกเดินทางต่อ เผลอแป๊ปเดียวมาถึงวันที่ 4 แล้วนะ รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากจริงๆ ที่แรกที่เราจะไปวันนี้ก็คือตลาดอีกแล้ว 5555 ไกด์บอกว่าสำหรับคนที่นี่ การมาตลาดคือการเข้าสังคมอย่างนึง ผู้คนจะแต่งตัวสวยๆเพื่อออกมาเจอกัน ก่อนจะขับไปถึงตลาด ก็เหมือนทุกที เวลาผ่านที่ๆวิวสวย ไกด์ก็จะบอกคนขับให้จอดไปวิ่งเล่นถ่ายรูปกัน ชอบวิวริมถนนตรงนี้มาก

 

 

 

พอไปถึงที่หมายตื่นเต้นมาก เพราะตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ ใหญ่กว่าเมื่อเช้าหลายสิบเท่า ผู้คนเยอะแยะ ใส่ชุดหลากสีสัน เลือกถ่ายรูปไม่ถูกเลย ตาลายไปหมด ที่สะดุดตาที่สุดก็เห็นจะเป็นหมูน้อย ที่ชาวบ้านจูงไปมา มันน่ารักมากๆ เสียงร้องอู๊ดๆของมัน ผสมกับเสียงแตรรถมอเตอร์ไซด์ที่เข้าออกในตลาด และเสียงเพลงที่บรรดาชาวบ้านเปิด มันช่างได้อารมณ์ดีแท้ 555 ในนี้มีขายของสารพัดไปหมด ทั้งผัก ผลไม้ เครื่องเสียง เป็ด ไก่ หมู แพะ วัว รูปที่ตลาดเยอะมาก เดินถ่ายรูปแบบสุขสุดๆชาวบ้านใส่เสื้อผ้าสีสวยสดใส แล้วก็ได้เห็นอะไรแปลกๆตั้งหลายอย่าง

แดดตอนเที่ยงทำให้อากาศที่หนาวๆเริ่มจะอุ่นขึ้นบ้าง ชาวบ้านทั้งผู้ใหญ่และเด็กต่างซื้อไอติมมากินกัน เห็นแล้วก็อยากกินมั่ง เลยซื้อมาลองแท่งนึง อื้มมม อร่อยดี เหมือนไอติมรถเข็นที่เคยกินตอนเด็กๆเลย ก่อนกลับแวะกินสัปปะรดเย็นๆให้ชื่นใจแล้วก็ซื้อส้มไปกินบนรถกันด้วย

เที่ยงนี้แวะกินข้าวที่ร้านริมทางเหมือนเคย ร้านนี้คนเยอะน่าดู อาหารก็ง่ายๆเหมือนทุกวัน มีผัดผัก ฟักทองใส้หมู ผัดเต้าหู้ ป่อเปี๊ยะทอด ซุปข้าวโพด ตอนนั่งกินข้าวเพลินๆ หันไปมองที่ข้างฝามีรูปลูกสาวเค้าติดเต็มเลย มีตั้งแต่รูปสมัยเรียน รับปริญญา ไปจนถึงรูปตอนแต่งงาน เอาเป็นว่าแค่มองเผินๆก็รู้ประวัติตั้งแต่เด็กจนโตเลยทีเดียว 555 ถามไปถามมาได้ความว่าที่นี่เค้าจะนิยมติดรูปลูกตัวเองไว้ที่ผนังเป็นเร่ืองปกติ

 

หลังจากอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ ทางผ่านตรงนี้สวยมากกกก เห็นขั้นบันไดชัดเจนเป็นชั้นๆเลย ทุกคนรีบวิ่งลงจากรถไปถ่ายรูป  จินตนาการว่าถ้าอยู่ตรงนี้ช่วงเดือนกันยา นาขั้นบันไดตรงนี้คงเหลืองอร่ามทั้งแถบ แค่นึกก็ฟินละ 

Next stop คือ หมู่บ้านหัตถกรรม ที่นี่ชาวบ้านจะถนัดในการเอาวัตถุดิบจากธรรมชาติ มาทำข้าวของเครื่องใช้ และของที่ระลึกต่างๆ พอไปถึงเห็นป้าคนนึงกำลังนั่งทอผ้าอยู่พอดีเลย  ถัดไปเป็นลูกสาวที่กำลังนวดผ้าให้นิ่ม วิธีการก็คือเอาผ้าไปไว้ตรงกลางระหว่างไม้กลมๆกับแผ่นไม้สี่เหลี่ยม แล้วยืนโยกไปโยกมา แค่นี้ผ้าก็จะนิ่ม ลองจับดู Before After ก็เป็นอย่างที่เค้าบอกจริงๆ ตาลซนเหมือนเคย ไปที่ไหนก็อยากลอง ขึ้นไปโยกได้สองทีก็เกือบจะหล่นลงมาแล้ว 555 ป้าที่ทอผ้าถึงกับหยุดทอแล้วหันมาหัวเราะกับพวกเราด้วย 

ก่อนจะกลับเราบังเอิญไปเห็นตุ๊กตา Handmade น่าตามันน่ารักดีอ่ะ เลยซื้อมา 3 ตัว มีหน้ายิ้ม หน้าบึ้ง และตัวที่หลับตาข้างนึง เดี๋ยวเอาตัวนึงเป็นของฝากแฟนเพจ ^^

ที่ต่อไปที่แวะ เป็นเส้นทางกลับจาก Dong Van ด้านหน้าจะเป็นร้านขายของฝาก มีพวกของขาวเขาและใบชาชนิดต่างๆขาย ส่วนด้านหลังจะเป็นจุดชมวิว ไกด์ยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่ยอมให้พวกเราเดินไปก่อน เค้าเอามือปิดตาเราไว้ และให้เดินไปทีละคน One Two  Three!!  เปิดตามาแทบอยากจะร้องออกมาดังๆเป็นภาษาเวียดนาม “สวยยยยยยย!!” 

จากมุมสูงตรงนี้ มองลงเป็นเห็นบ้านหลังเล็กๆเต็มไปหมด มีนาขั้นบันไดและภูเขาเล็กๆ ชาวบ้านที่นี่คงมีความสุขน่าดู อยู่ท่ามกลางธรรมชาติขนาดนี้ ที่นี่มีเรื่องเล่าโบราณว่าเป็นจุดที่นางฟ้าลงมาพบรักกับมนุษย์ (Heaven gate) ต่อมาถูกจับได้ เลยต้องกลับสวรรค์ และทิ้งนมไว้คู่นึง คือภูเขา2ลูกเนี่ย 5555 มันใช่หรอ!! ถึงตอนนี้ยังงงๆกับตำนานอยู่เลย

ไกด์ถามว่าเย็นนี้อยากไปกินข้าวกับชาวบ้านมั๊ย เป็นบ้านคนรู้จักเค้าเอง ถ้าสนใจเค้าจะพาไป เอาๆๆ เราพยักหน้า มาทั้งทีอยากได้ครบทุกรสชาติ อยากจะรู้ว่าเป็นยังไง  หลังจากนี้พวกเราก็นั่งรถยาวๆ หลับบ้าง ตื่นมาดูวิวข้างทางบ้าง รู้สึกตัวอีกทีก็คือตอนที่คนขับหยุดรถ

เค้าบอกว่ามองไปข้างหน้าสิ เห็นชาวบ้านกำลังทำงานมั๊ย เรามองตามที่เค้าบอกก็เห็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงกำลังถางหญ้าเพื่อปลูกผักอยู่ริมถนน 

ทุกคนดูขยันขันแข็งและยิ้มแย้มเป็นมิตร พวกเราลงไปคุยเล่นกับเค้า ได้สูดอากาศสดชื่นตอนเย็น นั่งชมวิวริมข้างทาง

วันนี้ก็เป็นวันดีๆอีกหนึ่งวันสินะ อ้อ ลืมบอกไปว่าเวลามาเที่ยวรองเท้าที่ใส่สบายๆจำเป็นมากจริงๆ ตอนแรกใส่ Converse มา พอเจอขึ้นบันได 500 ขั้นวันแรก รองเท้ากัดจนเดินต่อแทบไม่ไหว โชคดีที่เอา Toms คู่สีแดงมาด้วย

พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงทุกทีๆ คนขับบอกว่าใกล้ถึงบ้านเพื่อนเค้าแล้ว ขอจอดรถริมถนนซื้อผักสำหรับทำมื้อเย็นแป๊ปนึง ริมถนนตรงนี้มีบรรดาแม่ค้าวางแผงขายผักผลไม้ เราก็เลยถือโอกาสไปเดินเล่นดูบรรยากาศไปด้วยเลย

“ดาวๆ ไปนั่งตรงนั้นซิ ตรงกระจาดนั้นอ่ะ”  ในขณะที่กำลังถ่ายรูปเพลินๆ เสียงพี่โจตะโกนมาอีกฝั่งนึง เราก็เลยทำตามที่พี่โจบอก แชะๆๆ ตาลกับพี่โจก็หันกล้องถ่ายรูปเรารัวๆ อยู่ๆกลายเป็นนางแบบซะงั้น แต่พอเดินไปที่รถ ขอตาลดูรูปก็ต้องกรี๊ด ภาพน่ารักมาก เรานั่งตรงกลางแม่ค้าพอดิบพอดี คนอื่นขายผัก เราขายกล้อง 555

 

อยู่ด้วยกันมาหลายวัน เห็นชัดๆเลยว่า พี่เค้ามีสายตาที่แหลมคม รู้ว่ามุมไหนถ่ายออกมาแล้วจะสวย ของพวกนี้ก็คงต้องอาศัยการฝึกฝนและความคุ้นชิน จะฝึกถ่ายรูปบ่อยๆ เก่งให้ได้ครึ่งนึงของพี่เค้าก็ดีใจละ ใครว่างลองตามไปดูใน IG พี่โจ @joez19 แล้วจะได้มุมมองกับแรงบันดาลใจดีๆเพียบ

หลังจากที่คนขับซื้อผักและหน่อไม้ที่จะเอาไปทำอาหารมื้อเย็นครบแล้วก็ขับไปยังบ้านเพื่อนเค้า แถวนี้ทุ่งนาสวยมากกก เขียวมากกก ถึงมันจะไม่ได้เป็นนาขั้นบันไดที่ใหญ่อลังการเหมือนที่เห็นระหว่างทาง  แต่ความเขียวของมันก็ทำให้พลังสดชื่นพุ่งปรี๊ด ไกด์บอกว่าบ้านเพื่อนเค้าอยุ่ข้างหน้านี้เอง ระหว่างรออาหารเย็นให้พวกเราวิ่งเล่นตรงนี้ได้ ไชโย!! พี่โจดู Happy มากวิ่งนำหน้าไปที่ทุ่งนาก่อนใครเพื่อน 

ตอนนั้นตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าจะได้วิ่งในทุ่งของจริงแบบนี้ แต่ที่ลำบากก็คือทางเดินมันแคบมากและดินก็ยวบบๆ แต่ใจสู้ วิ่งไปหัวเราะไป มือนึงถือกล้อง อีกมือก็กางเพื่อสร้างบาลานซ์ให้ไม่หล่น โอ๊ย เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสุดๆ วิ่งไปวิ่งมาถ่ายรูปเล่นจนหัวเปียกเหงื่อไปหมด และแล้วพี่โจก็หล่นจนได้ ฮ่าๆๆ ไม่รู้เป็นเพราะทางมันเล็ก แล้วจังหวะที่เดินสวนกันมันแคบมากๆด้วยหรืออะไร แต่ภาพที่เห็นคืือขาพี่โจลงไปอยู่ในคันนาเรียบร้อยแล้ว ฮ่าๆ เราหัวเราะลั่นและไม่รีรอที่ถ่ายรูปช่วงเวลาประทับใจนี้ไว้  พี่โจก็หัวเราะไม่หยุด พร้อมทั้งพยายามดึงรองเท้าตัวเองขึ้นมาจากโคลน ดึงไปดึงมาหูรองเท้าขาดอีก สรุปว่าคราวนี้ได้วิ่งเท้าเปล่าสมใจเลย 5555

 

 

เย็นนั้นหลังจากวิ่งเล่นในทุ่งนากันหัวเปียก ก็เดินมากินข้าวเย็นที่บ้านชาวบ้าน อาหารท่าทางน่าอร่อยวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะเต็มไปหมด พวกเราก็ได้ลองชิมอาหารฝีมือคนท้องถิ่น และได้ร่วมวงทานข้าวกับครอบครัวชาวเวียดนามจริงๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ กลับถึงห้องพักก็มานั่งดูรูปที่ถ่ายกันวันนี้ คุยเล่นกันซักพักก็รีบนอน เพราะแพลนของพรุ่งนี้เราจะไปแว๊นมอเตอร์ไซค์ดูบรรยากาศทุ่งนากันตั้งแต่เช้าตรู่

bottom of page